แบงก์ชาติออสซี่ชี้นโยบายตรึงดบ.ที่ 7.25% เพียงพอต่อการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ

          ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ว่า การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีอาจเพียงพอที่จะช่วยชะลอความร้อนแรงของอุปสงค์ที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในขณะนี้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2534          
          นายเกล็น สตีเว่นส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียและเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายได้ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิมที่ 7.25% ในเดือนนี้หลังจากที่ได้ขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเห็นพ้องว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ธนาคารต้องเดินหน้าใช้นโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง 
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11.35 น. ตามเวลาออสเตรเลีย เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ 94.07 ต่อเซนต์สหรัฐ จากระด้บ 94.37 ต่อเซนต์สหรัฐก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานหลังการประชุม ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 2 ปีร่วงลงไปอยู่ที่ 7.04% จากระดับ 7.10%
          ประเด็นหลักอยู่ที่ว่าอัตราเงินเฟ้อเมื่อช่วงปีที่ผ่านมาพุ่งขึ้นในระดับที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากการขยายตัวของอุปสงค์เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียที่รองรับการขยายตัวของเงินเฟ้อนั้นมีขีดจำกัด         
          ต้นทุนด้านเชื้อเพลิง อาหาร และที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูงขึ้นทำให้อัตราเงินเฟ้อรายปีพุ่งแตะที่ระดับ 4.4% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นสถิติการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 17 ปี ขณะที่ธนาคารกลางตั้งเป้าควบคุมราคาสินค้าให้เคลื่อนไหวในอัตราเฉลี่ยที่ 2-3%
          รายงานหลังการประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลียระบุว่า ราคาน้ำมันเบนซินในขณะนี้จะยิ่งทำให้ราคาสินค้าผู้บริโภคในช่วงไตรมาส 2-3 พุ่งขึ้นอีก 0.25%