โรงสีข้าวส่วนใหญ่ในกรุงย่างกุ้งของพม่า ซึ่งได้รับความเสียหายจากพายุไซโคลนนาร์กีสเมื่อช่วงต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมานั้น สามารถใช้งานได้แล้วหลังจากที่มีการซ่อมแซม
สมาคมโรงสีข้าวพม่ารายงานว่า โรงสีข้าว 110 แห่งที่สามารถสีข้าวได้กว่า 15 ตันในเขตย่างกุ้งนั้น เมื่อช่วงต้นเดือนมิ.ย.นี้มีโรงสีเกือบ 100 แห่งที่สามารถใช้งานได้ตามปกติ อย่างไรก็ดี โรงสีข้าว 170 แห่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพยุไซโคลนอย่างหนักอย่างลุ่มน้ำอิรวดีนั้น มีโรงสีข้าวเพียง 50 แห่งเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โรงสีข้าวของเอกชนกำลังพยายามที่จะผลักดันให้โรงสีข้าวทั้งหมด 280 แห่งใน 2 เขตสามารถผลิตข้าวได้อย่างเต็มที่ภายในช่วงต้นปีหน้า
ในขณะเดียวกัน นสพ.นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์รายงานว่า โรงสีข้าวหลัก 32 แห่งที่สามารถสีข้าวได้ 25 ตันในเขตมอว์ลายีนยุนนั้นสามารถเปิดใช้งานได้แล้วหลังจากที่มีการซ่อมปรับปรุง
ทั้งนี้ เขตอิรวดีถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำในพม่า และพายุไซโคลนนาร์กีสได้ทำให้พื้นที่เพาะปลูกกว่า 1 ล้านเอเคอร์ตกอยู่ภายใต้กระแสน้ำทะเลในเขต 7 เขตของเมืองอิรวดี ย่างกุ้ง 3 เขต บาโก 2 เขต และรัฐมอญ 3 เขค และมีวัวควายล้มตายกว่า 200,000 ตัว
ชาวนาที่รอดชีวิตจากพายุไซโคลนในพื้นที่ลุ่มน้ำอิรวดี และย่างกุ้ง ตลอดจนกุงย่างกุ้ง ลาปุตตา มอว์ลายีนยุน โบกาเลย์ และเดดายี ได้เริ่มไถหว่านโดยใช้รถไถแทนที่วัวควายที่ล้มตายลงในช่วงพายุ
นอกจากโรงสีข้าวแล้ว การเลี้ยงปลาและกุ้งในเขตตวานเตย์ คายาน และโยคตันในกรุงย่างกุ้งและในแถบอิรวดีก็ได้รับความเสียหายอย่างมากจากพายุไซโคลนลูกนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--