ออสเตรเลียหวั่นผลผลิตข้าวสาลีต่ำกว่าคาดการณ์เหตุเดือนพ.ค.แห้งแล้งเป็นประวัติการณ์

          ออสเตรเลียซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก อาจจะผลิตข้าวสาลีได้ต่ำกว่าคาดการณ์ 8.8% หลังจากที่ช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาสภาพอากาศแห้งแล้งเป็นประวัติการณ์
          สำนักงานเกษตรและทรัพยากรเศรษฐกิจออสเตรเลียระบุในแถลงการณ์ว่า ผลผลิตธัญพืชอาจจะอยู่ที่ 23.7 ล้านเมตริคตันในช่วงการเริ่มต้นเก็บเกี่ยวผลผลิตตั้งแต่เดือนต.ค. เมื่อเปรียบเทียบกับการประเมินเดือนมี.ค.ที่ 26 ล้านตัน โดยความแห้งแล้งเมื่อปีที่แล้วทำให้ผลผลิตลดลง 13 ล้านตัน
          ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกในช่วงฤดูหนาวสูงกว่าค่าเฉลี่ยในควีนส์แลนด์และพื้นที่ส่วนต่างๆในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และคาดว่าจะมีฝน ลูกเห็บ หรือหิมะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในพื้นที่บางส่วนของรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวสาลีชั้นนำของประเทศ โดยราคาข้าวสาลีร่วงลง 35% จากระดับสูงเป็นประวัติการณ์เดือนก.ค. ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากการคาดการณ์ว่าผลผลิตที่มากขึ้นจะช่วยกระตุ้นการส่งออก และบรรเทาวิกฤตอาหารโลก
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ไซม่อน โรเบิร์ตส์ หัวหน้าฝ่ายสินค้าโภคภัณฑ์การเกษตรของออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป กล่าวว่า ตัวเลขผลผลิตปีนี้มีความอ่อนไหวมาก และอาจจะตกลงต่ำกว่าคาดการณ์ เนื่องจากผลผลิตส่วนมากจะตกอยู่ภายใต้ปัจจัยชี้นำของสภาพอากาศ
          สัญญาซื้อขายข้าวสาลีล่วงหน้าส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.25 เซนต์ หรือ 0.03% แตะ 8.7675 ดอลลาร์ต่อบุชเชลในช่วงการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกหลังจากที่ตลาด CBOT ปิดทำการเมื่อเวลา 12.39 น.ตามเวลาในซิดนีย์ โดยราคาสินค้าโภคภัณฑ์แตะระดับสูงถึง 13.495 ดอลลาร์ต่อบุชเชลเมื่อวันที่ 27 ก.พ. และปรับตัวขึ้น 15% ในเดือนพ.ค.จากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มธุรกิจปศุสัตว์จะใช้ธัญพืชเป็นอาหารสัตว์มากขึ้น หลังจากที่ราคาข้าวโพดพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
          กระทรวงเกษตรสหรัฐคาดว่า สหรัฐจะเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดในโลก รองลงมาคือ แคนาดาและออสเตรเลียในรอบปีซึ่งเริ่มต้น ณ วันที่ 1 มิ.ย. โดยการส่งออกของออสเตรเลียร่วงลงในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยว 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาเนื่องจากความแห้งแล้งทำให้การผลิตลดน้อยลง