ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ ฉุดดอลล์ร่วงเทียบเงินสกุลหลักๆ

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่พุ่งขึ้นรุนแรงเนื่องจากราคาน้ำมันและอาหารที่พุ่งสูงขึ้น รวมทั้งตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านที่ร่วงลง และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงเกินคาด
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับ 108.12 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 108.19 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.0435 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0457 ฟรังค์/ดอลลาร์
          ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5496 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5466 ดอลลาร์/ยูโร เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.9501 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9630 ดอลลาร์/ปอนด์
          ดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7530 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7526 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9400 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9398 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
          ไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ นิวยอร์ก กล่าวว่า "นักลงทุนเริ่มจับตาดูสถานการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐและมีความกังวลเรื่องภาวะ stagflation มากขึ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ในขณะที่ตัวเลขการสร้างบ้านและสภาวะในภาคอุตสาหกรรมกลับอ่อนแอลง"
          กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนี PPI ทั่วไปเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 1.4% ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวขึ้นรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ขณะที่ดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ขยายตัวขึ้น 0.2% 
          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านลดลง 3.3% ในเดือนพ.ค. แตะระดับ 975,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2534 และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างลดลง 1.3% แตะระดับ 969,000 ยูนิต
          นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตในภาคอุตสาหกรรมลดลงเกินคาด 0.2% ในเดือนพ.ค.และอัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงสู่ระดับ 79.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2548 
          ค่าเงินยูโรยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า หลังจากเงินเฟ้อในเขตยูโรโซนสูงเกินเป้าหมายของอีซีบี
          ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษเตือนว่า อัตราเงินเฟ้อภายในประเทศอาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 4% ก่อนปลายปีนี้ หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับ 3.3% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่พรรคแรงงานเข้าบริหารประเทศ