เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนและแข็งค่าแตกต่างกันไปเมื่อเทียบเงินสกุลหลักอื่นๆ ในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ (18 มิ.ย.) อันเป็นผลมาจากการขาดปัจจัยชี้นำ รวมถึงการเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่บ่งบอกว่าโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ย ลดน้อยลง
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ณ เวลา 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (11.00 น.ตามเวลาประเทศไทย) เงินยูโรซื้อขายที่ระดับ 1.5504 ดอลลาร์ต่อยูโร จาก 1.5519 ดอลลาร์ต่อยูโรในช่วงเช้าที่ตลาดออสเตรเลีย
เงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากบทความของวอลล์สตรีท เจอร์นัล และ ไฟแนนเชียล ไทม์ส ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงท่านหนึ่งของเฟดเผยว่าโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้มีน้อย โดยก่อนที่จะมีรายงานดังกล่าวออกมา นักลงทุนเชื่อว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25%รวม 3 ครั้งก่อนหมดปีนี้
“ตราบใดที่ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัว เงินดอลลาร์ก็จะยังไม่แข็งค่าขึ้นไปมากกว่านี้" มิโนรุ ชิโออิริ จากมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซีเคียวริตี้ส์ กล่าว “ยิ่งไปกว่านั้น ดอลลาร์อาจร่วงสู่ระดับ 105-106 เยนต่อดอลลาร์อีกครั้ง"
ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษก็แสดงท่าทีว่าโอกาสที่จะชึ้นดอกเบี้ยมีน้อยลงเช่นกัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--