เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐวางแผนที่จะเปิดทางให้วาณิชธนกิจสามารถกู้เงินจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ต่อไป หากโครงการปล่อยวงเงินกู้ฉุกเฉินของเฟดสิ้นสุดลงในเดือนก.ย. และหลังจากวาณิชธนกิจหลายแห่งขาดทุนและมีผลกำไรร่วงลง
นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด นายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐ และนายคริสโตเฟอร์ ค็อกซ์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐ หารือกันเกี่ยวกับแนวทางในอนาคตของโครงการจัดหาวงเงินกู้ฉุกเฉินให้กับวาณิชธนกิจและสถาบันการเงิน
การวางแผนเพื่อเปิดทางให้วาณิชธนกิจสหรัฐมีโอกาสกู้เงินจากเฟดได้ต่อไปเกิดขึ้นหลังจาก เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐเปิดเผยว่า บริษัทขาดทุนในไตรมาส 2 เป็นวงเงินสูงถึง 2.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5.14 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งเป็นการขาดทุนครั้งแรกนับตั้งแต่เลห์แมน บราเธอร์สนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดวอลล์สตรีทเมื่อปี 2537
ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่สุดของโลกรายงานว่า กำไรสุทธิในไตรมาสสองปี 2551 ลดลงประมาณ 10% ซึ่งเป็นผลมาจากค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นจากการบริหารจัดการสินทรัพย์และการทำอันเดอร์ไรท์
นอกจากนี้ มอร์แกน สแตนเลย์ วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐเปิดเผยว่า ผลกำไรของบริษัททรุดตัวลง 61% แตะ 1.01 พันล้านดอลลาร์ หรือ 95 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับระดับ 2.57 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.45 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปีที่ผ่านมา เนื่องจากวิกฤติสินเชื่อที่ยังคงส่งผลกระทบเลวร้ายต่อธุรกิจวาณิชธนกิจและเทรดดิ้ง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--