เอกชนประกาศไม่ขนม็อบรถบรรทุกเข้า กทม.แล้วหลังพอใจผลเจรจาเบื้องต้น

          นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เชื่อว่า จะไม่มีการนำม็อบรถบรรทุกเข้ามาชุมนุมในกทม.แล้ว  เพราะพอใจผลการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวันนี้ที่ตอบรับข้อเรียกร้องให้ภาครัฐช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบจากปัญหาน้ำมันแพง แม้ว่าจะมีสมาชิกบางส่วนออกมาระบุว่ายังไม่พอใจ แต่มั่นใจในความเป็นเอกภาพของสหพันธ์ฯ ที่จะชี้แจงทำความเข้าใจกันได้
          นายยู กล่าวว่า เข้าใจว่าการดำเนินงานเพื่อให้ความช่วยเหลือยังต้องใช้เวลา ต่อจากนี้ก็จะเจรจากับสมาชิกเพื่อทำความเข้าใจและจะเร่งจัดทำรายละเอียดเสนอกระทรวงคมนาคมภายในวันที่ 20 มิ.ย.นี้
          "การนำรถบรรทุกมาจอดในกทม.ไม่มีแน่จะเจรจากับสมาชิกบางส่วนที่อาจเข้าใจผิด เชื่อว่าสหพันธ์ฯเป็นเอกภาพ และจะดำเนินการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนปริมาณน้ำมันที่สหพันธ์ฯ ต้องการใช้นั้นคาดว่าจะอยู่ที่หลักล้านลิตรต่อวัน" นายยู กล่าว
          นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า พร้อมจะเสนอข้อเรียกร้องของสหพันธ์ฯ ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาแนวทางให้ความช่วยเหลือ โดยทางสหพันธ์ฯ ต้องจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันราคาถูกที่ต้องการใช้และวิธีการควบคุมจัดสรรน้ำมันให้กับสมาชิก หากเสนอมาเร็วก็จะเร่งเสนอเข้า ครม.ในสัปดาห์หน้า
          "ข้อเสนอของสหพันธ์ฯ เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานจึงต้องเสนอเรื่องให้ ครม.พิจารณาอนุมัติและจะได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ ซึ่งขั้นตอนการดำเนินงานนั้นต้องใช้เวลา ก็ขอให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกเข้าใจด้วย"นายปิยะพันธ์ กล่าว
          รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กรณีที่ทางสหพันธ์ฯ ขอให้รัฐบาลจัดสรรน้ำมันดีเซลราคาต่ำกว่าท้องตลาดอย่างน้อยลิตรละ 3 บาทนั้นอาจจะไม่ได้ตามจำนวนที่ต้องการ เพราะกระทรวงพลังงานโควตาน้ำมันราคาถูกทั้งสิ้น 120 ล้านลิตรต่อเดือน ซึ่งปัจจุบันได้จัดสรร ให้แก่ ภาคเกษตร ประมง และขนส่งสาธารณะไปบ้างแล้ว ทำให้เหลือน้ำมันอีกไม่มากเพียง 40-50 ล้านลิตรต่อเดือนเท่านั้น
          ส่วนการขอเงินสนับสนุนเพื่อนำไปดัดแปลงเครื่องยนต์ใช้เอ็นจีวี โดยให้มีการจัดตั้งกองทุนพลังงานทดแทนจำนวน 20,000 ล้านบาท และการจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งการลดภาษีน้ำเข้ารถบรรทุกใช้เอ็นจีวีนั้น กระทรวงคมนาคมจะเร่งเสนอไปยังกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป แต่ในส่วนของการแปลงสินทรัพย์ หรือรถบรรทุกเป็นทุนนั้น กรมการขนส่งทางบกจะเร่งไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือน
          ด้านนายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า จะรายงานผลการประชุมครั้งนี้ให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ซึ่งจะประชุมในวันเดียวกันนี้ให้รับทราบ แต่จะยังไม่มีการอนุมัติความช่วยเหลือเรื่องน้ำมันราคาต่ำ เพราะต้องรอมติ ครม.ก่อน 
          สำหรับข้อเสนออื่นๆ นั้น ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมและกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อสนับสนุนให้ภาคขนส่งใช้เอ็นจีวีอยู่แล้ว โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกใช้เอ็นจีวีนั้นเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องการมากที่สุด เพราะปัจจุบันรถบรรทุกใช้น้ำมันดีเซลมากที่สุด หากสามารถลดการใช้น้ำมันดีเซลได้จะช่วยทำให้ต้นทุนการขนส่งแยกออกจากราคาน้ำมันในตลาดโลกได้