นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-พ.ค.51) ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป(EU) ตรวจพบสินค้าอาหารจากไทยมีความไม่ปลอดภัยถึง 27 รายการ เช่น ปลาแมคเคอเรลกระป๋อง, ปลาหมึกแช่แข็งที่มีสารแคดเมียมปนเปื้อน, เห็ดดำชนิดแห้ง, เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ชนิดกระป๋อง, ผงวุ้น และเจลลี่ชนิดถ้วยที่มีเชื้อซาลโมเนลลา และไนโตรฟูแรนส์ ที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้
โดย EU ได้แจ้งเตือนผ่านระบบเตือนภัยเร่งด่วนสำหรับอาหารมนุษย์และอาหารสัตว์ (RASFF) เพื่อเรียกเก็บสินค้าดังกล่าว ตลอดจนห้ามขาย ห้ามนำเข้า รวมทั้งประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อว่าสินค้าเหล่านี้ไม่ปลอดภัย
"เพียง 5 เดือนแรก อาหารไทยถูกตรวจพบไม่ปลอดภัยและถูกแจ้งเตือนผ่านระบบ RASFF มากถึง 27 รายการ ผู้ส่งออกไทยหลายรายถูกตรวจพบสินค้าชนิดเดียวกันหลายครั้ง บางรายถึง 7 ครั้ง และบางสินค้าได้ถูกห้ามนำเข้า" นางอภิรดี ระบุ
นางอภิรดี กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยกำลังเร่งตรวจสอบและแก้ไขปัญหาบริษัทผู้ส่งออกที่มีปัญหาดังกล่าว เพื่อแจ้งผลให้คณะกรรมาธิการยุโรปทราบถึงแนวทางแก้ไขและป้องกันปัญหาของไทยต่อไป พร้อมเตือนผู้ผลิตและส่งออกอาหารไป EU ควรเพิ่มความระมัดระวังในการใช้สารเคมี, สารปรุงแต่ง, การบรรจุหีบห่อ รวมทั้งการเก็บรักษาสินค้าขณะขนส่ง เพื่อป้องกันการตกค้างหรือปลอมปนของสารเคมีและเชื้อโรค เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดและระเบียบของ EU เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยไป EU ได้
EU เป็นผู้นำเข้าสินค้าอาหารที่สำคัญของไทยอันดับที่ 3 รองจากสหรัฐ และญี่ปุ่น โดยปี 50 ไทยส่งออกอาหารไป EU คิดเป็นมูลค่าประมาณ 87,000 ล้านบาท หรือ 15% ของมูลค่าการส่งออกอาหารทั้งหมดของไทย สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ไก่แปรรูป, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป, ผลไม้กระป๋องและแปรรูป, ข้าว และปลาหมึกสดแช่เย็นแช่แข็ง
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--