ดอลล์ขยับขึ้นที่ตลาดออสเตรเลีย หลังพุ่งแข็งแกร่งขานรับราคาน้ำมันร่วง

          เงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้านี้ (20 มิ.ย.) โดยดอลลาร์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาขานรับราคาน้ำมันที่รูดลงไป 3.5% หลังจากที่จีนประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิงเพื่อควบคุมอุปสงค์น้ำมัน
          นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ในอังกฤษที่พุ่งทะยานขึ้นเกินคาด ได้จุดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ช่วยให้เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์และแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 07.15 น. ตามเวลาในประเทศไทย เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ 108.00 เยนต่อดอลลาร์จากระดับ 107.98 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่เงินยูโรเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.5495 ดอลลาร์ต่อยูโรจาก 1.5505 ดอลลาร์ต่อยูโร
          ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเทียบยูโรที่ 0.7859 ปอนด์ หลังจากที่อ่อนค่าลงไปอยู่ที่ 0.7850 ปอนด์ทันทีที่ทางการอังกฤษรายงานยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ที่พุ่งขึ้น 3.5% จากระดับในเดือนเม.ย.ที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2529  
          เทรดเดอร์กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดพุ่งเป้าที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเมื่อคืนนี้ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนเดือนมิ.ย.ร่วงลงเนื่องจากราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในปีนี้
          จอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากธอมสัน ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์กล่าวว่า ตลาดยังคงเคลื่อนไหวตามกระแสคาดการณ์ของธนาคารกลาง ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆจากการรายงานยอดคาดปลีกในอังกฤษที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดและทำให้นักลงทุนส่งแรงซื้อเพื่อชดเชการทำช็อตเซลล์กันอย่างหนาแน่น