นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือน พ.ค.51 ขยายตัว 21.4% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน หรือมีมูลค่าส่งออก 15,463 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นมูลค่าการส่งออกที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การนำเข้าขยายตัว 15.7% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน หรือมีมูลค่านำเข้า 14,168 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้าประมาณ 1,294 ล้านดอลลาร์
ภาวะการค้าระหว่างประเทศโดยรวมในช่วง 5 เดือนแรก(ม.ค.-พ.ค.)ของปีนี้ การส่งออกขยายตัว 22.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือมีมูลค่า 70,945 ล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้าขยายตัว 34.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือมีมูลค่า 72,640 ล้านดอลลาร์ ทำให้ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ไทยขาดดุลการค้า 1,695 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการส่งออกปี 51 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 12.5%
สาเหตุที่การส่งออกเดือน พ.ค.กลับมาเกินดุลการค้าอีกครั้ง เป็นเพราะมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มสินค้า โดยสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร มูลค่า 2,663 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 47.2% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน, สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น ข้าว, ยางพารา, อาหาร 40.1% สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญรวมเชื้อเพลิง ส่งออกรวม 11,819 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% โดยสินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก, วัสดุก่อสร้าง, อัญมณี, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ, น้ำมันสำเร็จรูป เป็นต้น
นอกจากนี้ มูลค่านำเข้าสินค้าสำคัญ เช่น ทองคำ และพลังงานมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยกลุ่มเชื้อเพลิงมีมูลค่า 2,470 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 4.7% เติบโตน้อยกว่าเดือน เม.ย.ที่นำเข้าเพิ่มถึง 88.1% แต่สินค้าทุนยังนำเข้าเพิ่มขึ้น 10% มูลค่า 3,404 ล้านเหรียญ สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปเพิ่ม 23.2% มูลค่า 6,651 ล้านเหรียญ
สำหรับตลาดส่งออกนั้น ตลาดใหม่เพิ่มขึ้น 28% โดยเฉพาะแอฟริกา อินโดจีน พม่า และอินเดีย เพิ่มขึ้นเกิน 50% ส่วนตลาดหลักขยายตัวรวม 16% เติบโตในทุกตลาดทั้งอาเซียน, ญี่ปุ่น, สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม การนำเข้าที่ลดลงไม่ได้ส่งสัญญาณเชิงลบต่อเศรษฐกิจในด้านการลงทุน เพราะสินค้ากลุ่มทุนและวัตถุดิบยังเติบโตต่อเนื่องในระดับ 2 หลัก ทำให้เศรษฐกิจยังน่าขยายตัวได้ต่อ แต่สาเหตุหลักน่าจะมาจากปริมาณนำเข้าน้ำมันที่ลดลง แม้มูลค่าจะเพิ่มขึ้น เพราะประชาชนเริ่มเข้าใจสถานการณ์ราคาน้ำมันมากขึ้น ขณะที่ทองคำที่นำเข้าเพิ่มเมื่อเดือนที่แล้วถึง 615% ก็ลดลงจาก 500 ล้านเหรียญ เหลือกว่า 400 ล้านเหรียญในเดือนนี้
"การส่งออกสูงเป็นประวัติการณ์ เพราะได้ผลดีจากการขยายตัวของสินค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะสินค้าเกษตรซึ่งมีมูลค่าสูงขึ้นมาก ทำให้กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่าทั้งปี 51 จะทำได้ถึงเป้าหมาย 12.5% และพยายามทำให้ถึง 15% ให้ได้ ขณะที่เรื่องดุลการค้ายังต้องดูทั้งปัจจัยราคาน้ำมัน และการส่งออก" นายศิริพล กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--