ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงลงจากข่าวซิตี้กรุ๊ปเตรียมลดมูลค่าบัญชี Q2

ข่าวต่างประเทศ Saturday June 21, 2008 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าอาจมีสถาบันการเงินอีกหลายแห่งของสหรัฐประกาศลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี และกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบียในการประชุมสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง เป็นอีกปัจจัยที่กดดันดอลลาร์ร่วงลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับ 107.18 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 108.00 เยน/ดอลลาร์ และดิ่งลงแตะระดับ 1.0344 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0448 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5618 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5500 ดอลลาร์/ยูโร เงินปอนด์ทะยานขึ้นแตะระดับ 1.9760 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9720 ดอลลาร์/ปอนด์
ดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 0.7614 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7618 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9538 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9505 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ความวิตกกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มภาคการเงินของสหรัฐมีขึ้นหลังจาก แกรี คริทเทนเดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน (CFO) ของซิตี้กรุ๊ป เตือนว่า ซิตี้กรุ๊ปซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐเพื่อพิจารณาในแง่ของสินทรัพย์ อาจต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีลงอีกในไตรมาส 2 เนื่องจากขาดทุนในตลาดซับไพรม์ หลังจากซิตี้กรุ๊ปปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีในไตรมาสแรกไปแล้วกว่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์
เมื่อวานนี้มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับเครดิตบริษัทประกันหุ้นกู้รายใหญ่ 2 แห่งของสหรัฐ คือ บริษัทแอมแบค ไฟแนนเชียล กรุ๊ป และเอ็มเอไอบี กรุ๊ป
นอกจากนี้มีรายงานว่า ฟิฟธ์ เติร์ด แบงคอร์ป ซึ่งเป็นสถาบันการเงินรายใหญ่ในวอลล์สตรีท ประกาศระดมทุนเพิ่มอีก 2 พันล้านดอลลาร์ และเอ็มเอฟ โกลบอล ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 2 เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อ
นอกเหนือจากความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มภาคการเงินของสหรัฐแล้ว ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐ หลังจาก S&P ประกาศเครดิตพินิจแก่บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่หลายแห่งในสหรัฐ รวมถึง เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ฟอร์ด มอเตอร์ และไคร์สเลอร์ แอลแอลซี ซึ่งทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้ดิ่งลงเมื่อคืนนี้ด้วย
ไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ นิวยอร์ก กล่าวว่า "ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงและไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานด้านอุปสงค์-อุปทาน ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาะเศรษฐกิจในอนาคตของสหรัฐ ซึ่งความกังวลในเรื่องนี้เป็นอีกปัจจัยที่ฉุดดอลลาร์ร่วงลง"
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 2.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 134.62 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของสหรัฐ (เพนทากอน) ว่า การซ้อมรบครั้งใหญ่ของอิสราเอลเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า อิสราเอลมีแสนยานุภาพสูงพอที่จะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ