หลิว จ้าวหยง ประธานสายการบินไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นสายการบินรายใหญ่ที่สุดของจีน เปิดเผยว่า เที่ยวบินไปยังไต้หวันผ่านทางน่านฟ้าฮ่องกงนั้น จะทำให้สายการบินต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ที่สายการบินต้องเผชิญกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ง
ประธานสายการบินกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า การบินในเส้นทางดังกล่าวทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากรและเสียเวลาผู้โดยสารโดยใช่เหตุ เรื่องนี้น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยเร็วที่สุด
การบินผ่านน่านฟ้าฮ่องกงจะทำให้ระยะเวลาในการเดินทางบนเที่ยวบินระหว่างเซี่ยงไฮ้และไทเปเพิ่มขึ้นอีก 90 นาที และใช้เชื้อเพลิงอีก 8.8 ตัน โดยเที่ยวบินข้ามคาบสมุทรที่จะเริ่มบินในวันที่ 4 ก.ค.นั้น จะต้องมีการบินอ้อม เนื่องจากทางการไต้หวันเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยในการดูแลน่านฟ้าที่มีความกว้างกว่า 150 กิโลเมตร
สายการบินจีนและไต้หวันมีกำหนดเปิดให้บริการเที่ยวบินข้ามคาบสมุทรในเดือนหน้า หลังจากที่ได้มีการผ่อนปรนคำสั่งห้ามให้บริการเที่ยวบินตรงในรอบเกือบ 60 ปี โดยสายการบินของทั้ง 2 ฝ่ายจะให้บริการเที่ยวบินไป-กลับ 18 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงที่ได้มีการเห็นชอบไปเมื่อต้นเดือน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับเครื่องบิน 25% ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. ซึ่งทำให้ต้นทุนในการปฏิบัติการของสายการบินภายในประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 หมื่นล้านหยวนต่อปี โดยเชื้อเพลิงเครื่องบินจะคิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% ของต้นทุนในการปฏิบัติการของไชน่า เซาเทิร์นปีนี้ เมื่อพิจารณาจากราคาเชื้อเพลิงในปัจจุบัน เมื่อเปรียบเทยบกับเมื่อปี 2550 ที่ 35%
นายหลิวกล่าวว่า สายการบินได้ยกเลิกบริการต่างๆ ปรับปรุงเส้นทางารบิน และลดความสิ้นเปลืองบนเที่ยวบิน เพื่อที่จะได้มีการใช้เชื้อเพลิงน้อยลง รวมทั้งการขึ้นค่าธรรมเนียมการบินของเส้นทางบินภายในประเทศ เพื่อให้สายการบินอยู่รอด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--