ยอดขาดดุลการค้าของเวียดนามขยายตัวขึ้นกว่า 3 เท่าเมื่อเปรียบเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ 1.69 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยนักวิเคราะห์เตือนว่า ยอดขาดดุลที่สูงขึ้นนี้มาจากปัจจัยเรื่องการนำเข้าและเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการสร้างสมดุลในด้านการชำระหนี้ และยังสร้างแรงกดดันให้เงินดองของเวียดนามอ่อนค่าลง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ก็ยังมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับตลอดทั้งปี 2550
ทั้งนี้ การนำเข้าของเวียดนามในช่วงครึ่งปีแรกมีมูลค่าทั้งสิ้น 4.55 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงขึ้น 64% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปีที่แล้ว ส่วนการส่งออกที่นับรวมน้ำมันดิบ สิ่งทอ และรองเท้าด้วยนั้น เพิ่มขึ้น 27% แตะ 2.86 หมื่นล้านดอลลาร์
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ส่วนต่างการค้า 1.69 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรกนี้สูงกว่าตัวเลขในช่วง 6 เดือนแรกของปีที่แล้วกว่า 3 เท่า และสูงกว่ายอดรวมทั้งหมดในปีที่แล้วที่ 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์
สื่อเวียดนามมองว่า ยอดขาดดุลการค้าที่สูงขึ้นในระบบเศรษฐกิจที่ขยายตัวเร็วอย่างเวียดนามทำให้เกิดปัญหาไร้สมดุลในด้านบัญชีการชำระหนี้และคาดว่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนผันผวนในระยะนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางเวียดนามกล่าวว่าสำรองเงินตราต่างประเทศอยู่ที่ 2.07 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงพอที่จะทำให้เงินดองมีเสถียรภาพ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--