นายนคร จันทศร รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคา กล่าวว่า รฟท.ยังคงพิจารณารายละเอียดข้อเสนอทางเทคนิคของกลุ่มยูนิค-ชุนวู จอยท์เวนเจอร์ตามขั้นตอน ซึ่งมี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) เข้าร่วมด้วยหลังผ่านคุณสมบัติในโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน หากผ่านการพิจารณาด้านเทคนิค จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปคือการพิจารณาข้อเสนอด้านราคา
แต่หากศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองตามคำฟ้องของกลุ่มเอสทีซีซี จอยท์เวนเจอร์ ซึ่งมีบมจ.ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น(SYNTEC) เป็นแกนนำ ทาง รฟท.ก็คงต้องชะลอการพิจารณาข้อเสนอของกลุ่มยูนิคยูนิคฯ จนกว่าศาลปกครองจะมีคำวินิจฉัยใดๆ แต่ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งดังกล่าว
แหล่งข่าวจากรฟท. กล่าวว่า กลุ่มเอสทีซีซีฯได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง โดยระบุว่า ผลการพิจารณาของคณะกรรมการประกวดราคา เป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ และการสรุปว่า เอกสารการแปลผลงานของบริษัท ไช่น่า สเตท คอนสตรัคชั่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด หนึ่งในกลุ่มเอสทีซีซีฯ ไม่มีการรับรองจากเจ้าหน้าที่รัฐ(NOTARY PUBLIC) และไม่ได้รับการรับรองจากสถานทูตไทยหรือสถานกงสุลไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นการวินิจฉัยที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดทีโออาร์ ซึ่งไม่ได้ระบุให้เจ้าหน้าที่รัฐรับรองการแปลของผู้แปล
อย่างไรก็ตาม บริษัทระบุว่าได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการประกวดราคาในประเด็นความไม่สมบูรณ์ของเอกสารรับรองการแปล โดยมีเอกสารต่างๆประกอบด้วย หนังสือชี้แจงของก๊กซิน หน่วยงานออกหนังสือรับรองปักกิ่ง และหนังสือรับรองของสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งเอกสารดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการรับรองความถูกต้องของผลงาน และรับรองความถูกต้องของการแปล และรับรองความเป็นเจ้าหน้าที่รัฐของหน่วยงานก๊กซิน
ทั้งนี้ คณะกรรมการประกวดราคาสามารถตรวจสอบความมีอยู่จริงของเอกสารดังกล่าวได้ จากสถานทูตจีนในไทยโดยตรง ซึ่งการไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นการขัดพรบ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มาตรา 29 ที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐแสวงหาพยานหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง และรับฟังพยานหลักฐาน คำชี้แจง หรือความเห็นของคู่กรณี
ด้านนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ โฆษกคณะกรรมการ รฟท.กล่าวว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าเอสทีซีซี จอยท์เวนเจอร์ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง หลังไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติในการประกวดราคาโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กม. มูลค่า 8,748.40 ล้านบาท คณะกรรมการรฟท.ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว แต่ก็เห็นว่าเป็นสิทธิที่ผู้รับเหมาสามารถดำเนินการได้หากคิดว่าไม่ได้รับความยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆนี้ นายนคร จันทศร รักษาการผู้ว่าการ รฟท. ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคา ได้รายงานความคืบหน้าการประกวดราคา โดยชี้แจงว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคของบริษัทที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น ซึ่งเหลือเพียงรายเดียวคือ กลุ่มกิจการร่วมค้ายูนิค-ชุนวู จอยท์เวนเจอร์
"เชื่อว่านายนคร จะรายงานความคืบหน้าโครงการนี้ให้คณะกรรมการ รฟท.รับทราบในการประชุมวันที่ 30 มิ.ย.นี้ " นายสุชัชวีร์ กล่าว
นอกจากนี้ รักษาการ รฟท.จะเสนอรายละเอียดแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน ตามที่คณะกรรมการรฟท.มอบหมายให้เร่งจัดทำแผนการเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อให้บริการดีขึ้น และมีความตรงต่อเวลามากขึ้นด้วย
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตรนั้น คณะกรรมการรฟท. ได้สั่งให้ฝ่ายบริหารทบทวนความเหมาะสมของกรอบวงเงินค่าก่อสร้างตามที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียด และส่งผลการศึกษามาให้รฟท.พิจารณา เพื่อให้รู้ว่ากรอบวงเงินที่เสนอมามีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด
"ที่ปรึกษาเสนอว่ากรอบวงเงินเบื้องต้นอยู่ที่ 7.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งรฟท.ต้องดูว่าค่าใช้จ่ายในรายการต่างๆ ในกรอบวงเงินมีความเหมาะสมหรือไม่ เช่น ค่ารื้อย้ายผู้บุกรุกมากหรือน้อยไป เพื่อให้เกิดความรอบคอบ ไม่ใช่ว่า สนข.เสนอมาอย่างไร รฟท.ก็เสนอกระทรวงคมนาคมไปอย่างนั้น" นายสุชัชวีร์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย คคฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--