นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมที่ 2.00% ในการประชุมวันที่ 24-25 มิ.ย.นี้
ริชาร์ด ยามาโรน นักวิเคราะห์จากอาร์กัส รีเสิร์ช กล่าวว่า "เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด และคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่เศรษฐกิจทรุดตัวลง แต่เงินเฟ้อกลับพุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากราคาพลังงาน อาหาร และสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทะยานขึ้น ที่ผ่านมานั้นเฟดแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามีความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อและส่งสัญญาณว่าจะไม่ลดดอกเบี้ยลงอีก ขณะเดียวกันเฟดก็ตระหนักดีว่า การขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไปอาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจที่ถูกกระทบอยู่แล้วจากภาวะตกต่ำในตลาดที่อยู่อาศัย"
ซูซาน วอชเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและอสังหาริมทรัพย์จากมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย คาดว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เฟดจะตรึงดอกเบี้ยที่ 2.00% ในการประชุมสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนและนักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทเชื่อว่าปัญหาเงินเฟ้ออาจบีบให้เฟดต้องขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนส.ค.หรืออาจจะช่วงปลายปีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางกลุ่มมองว่าเฟดพยายามหลีกเลี่ยงการขึ้นดอกเบี้ยเนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยยังทรุดตัวลงและจำนวนบ้านที่ถูกยึดเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์"
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า แถลงการณ์ภายหลังการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการเฟดจะชูประเด็นเรื่องความกังวลด้านเงินเฟ้อ หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นรุนแรง และกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 0.6% ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2550 ขณะที่ดัชนี CPI เดือนมิ.ย.ของยุโรปขยายตัวขึ้น 3.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2535 สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--