ฟิทช์ เรทติ้งส์ เชื่อว่าการสนับสนุนจากซีไอเอ็มบี กรุ๊ป เอสอีเอ็น บีเอชดี (CIMB) ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธนาคารไทยธนาคาร (BT) จะช่วยปรับปรุงเครือข่ายและการดำเนินงานของธนาคารอย่างมีนัยสำคัญ และเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินและผลการดำเนินงานของธนาคารซึ่ง ณ ปัจจุบันอยู่ในสถานะที่อ่อนแอ
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2551 ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ประกาศเครดิตพินิจภายใต้การพิจารณา (Rating Watch Evolving) แก่อันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) ของธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) หรือ BT ที่อันดับ ‘4’ โดยรอความชัดเจนของการเพิ่มทุนในอนาคต และความเป็นไปได้ในการลดสัดส่วนการถือหุ้นภายในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินหรือ FIDF ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนการถือหุ้นที่ 42%
หากกระทรวงการคลังอนุมัติการขายหุ้นและการซื้อขายสำเร็จเรียบร้อย ฟิทช์คาดว่าน่าจะสามารถคงอันดับเครดิตสนับสนุนที่ระดับ 4 ของ BT ได้ และอาจพิจารณาเพิ่มอันดับเครดิตสนับสนุนหาก CIMB ถือหุ้นเกินกว่ากึ่งหนึ่งของธนาคารโดยการซื้อหุ้นเพิ่มเติมจากการทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือ (tender offer) หากการขายหุ้นให้กับ CIMB ไม่สามารถลุล่วงไปได้ อันดับเครดิตสนับสนุนน่าจะยังคงอยู่ภายใต้เครดิตพินิจภายใต้การพิจารณาโดยรอความชัดเจนจากทางภาครัฐในการเพิ่มทุนซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการฟื้นฟูความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร
CIMB เป็นกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศมาเลเซีย โดยมีสินทรัพย์มากกว่า 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ CIMB ถือหุ้น 100% ใน CIMB Bank Bhd (ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตสากลที่ BBB+ แนวโน้มเป็นบวก) ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลักของกลุ่ม บริษัทโฮลดิ้งของกลุ่ม CIMB คือ Bumiputra-Commerce Holdings Bhd (BCHB) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของมาเลเซีย โดย BCHB มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ Khazanah ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการการลงทุนของรัฐบาลมาเลเซีย และองค์กรอื่นๆ ของรัฐบาลมาเลเซีย รวมกันถือหุ้น 36% CIMB ได้ขยายฐานธุรกิจในภูมิภาคนี้ในช่วงที่ผ่านมา โดยถือหุ้น 62% ใน PT Bank Niaga ประเทศอินโดนีเซีย และ 20% ใน Bank of Yingkou ประเทศจีน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--