ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินหลักๆ หลัง FED มีมติคงดอกเบี้ย

ข่าวต่างประเทศ Thursday June 26, 2008 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด อย่างไรก็ตาม เฟดได้แสดงความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์บางกลุ่มคาดว่าเฟดอาจตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตข้างหน้า
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับ 107.74 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 107.84 เยน/ดอลลาร์ และร่วงลงแตะระดับ 1.0352 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0414 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5673 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5565 ดอลลาร์/ยูโร เงินปอนด์ทะยานขึ้นแตะระดับ 1.9748 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9708 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.7589 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7583 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.9589 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9557 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
แดน แคทซิฟ นักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราต่างประเทศจากเครดิต สวิส กล่าวว่า "เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้นักลงทุนไม่เข้าซื้อดอลลาร์ เราคาดว่าการคงอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลกดดันดอลลาร์ไปอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การที่เฟดแสดงความกังวลเรื่องเงินเฟ้อทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตข้างหน้า"
คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด มีมติคงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น (fed funds rate) ไว้เท่าเดิมที่ 2.00% และคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) ที่ 2.25% พร้อมกับออกแถลงการณ์ประเมินเศรษฐกิจว่า "เศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐยังคงขยายตัว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นปานกลางในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 2.5% แตะระดับ 512,000 ยูนิตในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงกว่า 40 % จากปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยอดขายบ้านใหม่จะลดลงสู่ระดับ 510,000 ยูนิตในเดือนพ.ค.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ