เงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงต่อเนื่องในรอบสองสัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้านี้ (26 มิ.ย.) หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม อีกทั้งยังออกแถลงการณ์ที่ไม่ได้ส่งสัญญาณในเชิงบวกที่จะช่วยหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 07.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์ขยับขึ้นแตะที่ระดับ 107.88 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 107.83 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.5673 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.5665 ดอลลาร์ต่อยูโร
ทั้งนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรหลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิมที่ 2.00% พร้อมทั้งยอมรับว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะเริ่มแผ่วลงในช่วงปลายปีนี้ สวนทางกับที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า จะขึ้นดอกเบี้ยจากระดับปัจจุบันที่ 4.0% ในเดือนหน้า ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐและกลุ่มประเทศในยุโรปขยายวงกว้างมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของเฟดยังระบุถึงการประเมินเศรษฐกิจในเชิงบวกอยู่บ้างว่า "ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังคงแข็งแกร่ง และราคาพลังงานจะพุ่งขึ้นในกรอบที่จำกัด ซึ่งจะไม่กระตุ้นให้ภาวะเงินเฟ้อในประเทศเร่งตัวเร็วขึ้น ซึ่งประเด็นนี้ยังเป็นเรื่องที่ธนาคารกลางวิตกกังวล"
ร็อบ เฮนเดอร์สัน นักวิเคราะห์จากเอ็นเอบี แคปิตอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญ คือ เฟดได้เปลี่ยนท่าทีมาใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินแบบอ่อนๆจากท่าทีที่เป็นกลาง
"เราไม่คิดว่าเฟดจะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินในปี 2551 แต่คาดว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อนช่วงกลางปีหน้า" เฮนเดอร์สันกล่าว
ด้านจอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากธอมสัน ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์กล่าวว่า ยังเป็นเรื่อวที่คลุมเครือว่าเฟดจะใช้นโยบายควบคุมเงินเฟ้อหรือไม่
"เทรดเดอร์ยังไม่แน่ใจว่า เฟดจะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินที่ช่วยประคับประคองให้เงินดอลลาร์ไม่ได้รับแรงกดดันมากนักในยามที่ ECB เริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า"นูนานกล่าวทิ้งท้าย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--