นายเหงียน ทัน ดุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวว่า รัฐบาลเวียดนามจะพยายามสกัดกั้นดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) รายปีให้อยู่ต่ำกว่าระดับ 10% ภายในปี 2553 จากปัจจุบันที่ระดับ 25%
"ที่ผ่านมานั้เราใช้มาตรการสกัดกั้นเงินเฟ้อมาโดยตลอด ซึ่งจะช่วยให้ตัวเลขเงินเฟ้อลดต่ำในในปี 2552 หรือ ต้นปี 2553" นายเหงียนกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังเข้าประชุมร่วมกับประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ และนาย อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ธนาคารกลางเวียดนามประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว 3 ครั้งในปีนี้ ส่วนในเดือนนี้ธนาคารได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 14% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในประเทศกลุ่มเอเชีย จากเดิมที่ระดับ 12% นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังประกาศลดค่าเงินดอง 2% เพื่อลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
มอร์แกน สแตนลีย์กล่าวว่า มาตรการสกัดกั้นเงินเฟ้อของธนาคารกลางเวียดนามได้ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างถ้วนหน้า และฉุดดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามร่วงลงถึง 58% ในปีนี้ นอกจากนี้ เวียดนามยังตกอยู่ในภาวะ "วิกฤตค่าเงิน"
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามยอมรับว่า "ตลาดเงินและตลาดทุนของเวียดนามกำลังตกอยู่ในภาวะยากลำบาก และเศรษฐกิจเวียดนามเองก็ชะลอตัวลงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกอ่อนแอ" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--