วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ก่อตั้งบริษัท เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ อิงค์ และบุคคลผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ระยะถดถอยแล้วและมีแนวโน้มที่จะเข้าขั้นวิกฤตรุนแรง
"ข้อมูลที่เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์รวบรวมได้ทั้งหมดบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงมาก ทุกอย่างเกี่ยวกับอุสาหกรรมก่อสร้างและตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค ผมมองเห็นความอ่อนแอลงในทุกๆด้านเวลานี้" บัฟเฟตต์กล่าว
บัฟเฟตต์ยังกล่าวด้วยว่า "ตัวเลขเงินเฟ้อกำลังพุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากราคาเหล็กและน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างมาก ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กังวลในเรื่องนี้ด้วย ผมคิดว่าเฟดควรต้องระมัดระวังท่าที และไม่ควรส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อเป็นเป้าหมายรองของเฟด"
ทั้งนี้ บัฟเฟตต์เชื่อว่า ปัจจัยด้านอุปสงค์และอุปทานเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และไม่เห็นด้วยกับมุมมองที่ว่าราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเนื่องจากการเก็งกำไร
"ตลอดชั่วชีวิตของผม จนถึงเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ผมพบว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกมีอยู่มากมาย แต่ในระยะหลังเมื่อจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น อุปทานน้ำมันลดลง ผมจึงไม่แปลกใจที่ราคาน้ำมันแพงขึ้น" บัฟเฟตต์กล่าว
บริษัท เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ของบัฟเฟตต์ เข้าลงทุนในบริษัทหลากหลายประเภท รวมถึงธุรกิจประกัน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับ เสื้อผ้า ขนม ภัตตาคาร แก๊สธรรมชาติ และบริษัทผลิตเครื่องบินเจ็ท นอกจากนี้ เบิร์คเชียร์ยังถือหุ้นใหญ่ในบริษัทหลายแห่ง อาทิ โคคา-โคลา และเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--