ผลการศึกษาชี้นโยบายเชื้อเพลิงชีวภาพปท.ร่ำรวยมีส่วนทำให้ปชช.ยากจนลง

ข่าวต่างประเทศ Thursday June 26, 2008 14:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ผลการศึกษาของออกซ์แฟมเผยให้เห็นว่า นโยบายด้านเชื้อเพลิงชีวภาพของประเทศร่ำรวยกำลังทำให้ประชาชนหลายล้านคนในประเทศกำลังพัฒนายากจนลง 
ออกซ์แฟม ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไร ได้เปิดเผยรายงานในช่วงเวลาที่ผู้นำจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 8 ประเทศ หรือ จี8 กำลังจะอภิปรายกันเพื่อหาทางลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในการประชุมสุดยอดที่ญี่ปุ่น เดือนก.ค.นี้
ผลการศึกษาดังกล่าวรายงานโดยอ้างการคาดการณ์ของธนาคารโลกว่า ราคาอาหารได้ปรับตัวสูงขึ้นถึง 83% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นหายนะสำหรับผู้ยากไร้ทั่วโลก "ชีวิตของประชากรประมาณ 290 ล้านคนตกอยู่ในอันตรายโดยที่ไม่ทันตั้งตัว เนื่องจากวิกฤติอาหาร" ผลการศึกษาระบุ
การศึกษาระบุว่า ราคาอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้นมีสาเหตุมาจากการพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพคิดเป็นสัดส่วน 30% และระบุว่าเชื้อเพลิงชีวภาพได้กดดันให้ประชาชน 30 ล้านคนยากจนลงแล้วในตอนนี้
"เชื้อเพลิงชีวภาพในปัจจุบันไม่ได้แก้ปัญหาสภาพอากาศหรือวิกฤติพลังงาน แต่กลับเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความไม่มั่นคงด้านอาหารและเงินเฟ้อ โดยคนยากจนเป็นฝ่ายที่ได้รับผลกระทบหนักสุด" ร็อบ บาลลีย์ ผู้เขียนรายงานฉบับนี้กล่าว
รายงานผลการศึกษากล่าวโทษประเทศร่ำรวยว่าเป็นต้นเหตุของวิกฤตการณ์ โดยระบุว่า เงินอุดหนุนเชื้อเพลิงชีวภาพโดยสหรัฐอเมริกาและยุโรปนั้น กำลังทำให้คนยากจนในประเทศกำลังพัฒนาไม่มีอาหารประทังชีวิต
รายงานยังชี้แนะด้วยว่า ประเทศร่ำรวยควรระงับการใช้กฎหมายเกี่ยวกับพลังงานชีวภาพในอนาคต และยกเลิกการให้เงินอุดหนุนและการยกเว้นภาษีเชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อช่วยให้ประชาชนไม่ยากจนลงไปมากกว่านี้ สำนักงานซินหัวรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ