โกลด์แมน แซคส์ คาดซิตี้กรุ๊ปลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีอีก $8.9 พันล้าน

          วิลเลียม ทาโนนา นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 2 ของซิตี้กรุ๊ป และเมอร์ริล ลินช์ เพราะคาดว่าภาวะตกต่ำในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ (ซับไพรม์) จะบีบให้ซิตี้กรุ๊ปและเมอร์ริล ลินช์ ปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี
          ราคาหุ้นซิตี้กรุ๊ปดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2541 ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดว่า ซิตี้กรุ๊ปอาจปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีลงอีก 8.9 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าผลประกอบการของเมอร์ริล ลินช์ ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ จะร่วงลงแตะระดับ 93 เซนต์/หุ้น จากระดับ 82 เซนต์/หุ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นเมอร์ริล ลินช์ ร่วงลง 6.8% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ 33.05 ดอลลาร์
          การคาดการณ์ของโกลด์แมน แซคส์ที่ว่า ซิตี้กรุ๊ปจะปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีลงอีกนั้น สอดคล้องกับที่ยูบีเอส เอจี คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากซิตี้กรุ๊ปขาดทุนในตลาดซับไพรม์เป็นวงเงินสูงถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์ และหลังจากนายวิกรม บัณฑิต ซีอีโอซิตี้กรุ๊ปประกาศเลย์ออฟพนักงาน 13,000 คนในปีนี้
          ทาโนนาคาดว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ถดถอยลงจะส่งผลกระทบต่อกำไรของซิตี้กรุ๊ป ขณะที่อัตราว่างงานที่สูงขึ้น และราคาบ้านที่ตกต่ำลง จะส่งผลกระทบให้ผู้บริโภคประสบความยากลำบากในการชำระเงินกู้ ซึ่งรวมถึงหนี้บัตรเครดิต
          ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นซิตี้กรุ๊ปลงสู่ระดับ "neutral'' จากระดับ "attractive" ซึ่งเป็นผลมาจากแนวโน้มผลประกอบการที่ซบเซาและภาคการเงินที่ชะลอตัวลงอย่างหนักของสหรัฐ 
          นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ซิตี้กรุ๊ปจะไม่สามารถรักษาระดับการจ่ายเงินปันผลที่ 7% ในปัจจุบันเอาไว้ได้ และซิตี้กรุ๊ปจำเป็นต้องเพิ่มทุน พร้อมกล่าวว่าซิตี้กรุ๊ปจะสามารถกระตุ้นกระแสเงินสดได้ 3.5 พันล้านดอลลาร์/ปี หากมีการลดการใช้จ่าย
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ข่าวโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าซิตี้กรุ๊ปจะปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีเป็นหนึ่งในปัจจัยลบที่สร้างความตื่นตระหนกในตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้