นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนพ.ค. 2551 มีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจากมาตรการส่งเช็คเงินคืนภาษีช่วยให้หลายครัวเรือนมีเงินจ่ายค่าเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้น
นักวิเคราะห์ 72 รายจากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในเดือนพ.ค.อาจปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากที่ขยับขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. ขณะที่ผลสำรวจอีกฉบับหนึ่งระบุว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนนี้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2523
เมื่อเดือนที่ผ่านมา ชาวสหรัฐนำเช็คเงินคืนภาษีดังกล่าวมาใช้เติมน้ำมัน และจับจ่ายซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า และเฟอร์นิเจอร์ซึ่งช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หากผลกระทบในแง่บวกของมาตรการคืนเงินภาษีครั้งนี้เริ่มแผ่วลงก็จะสร้างความเสี่ยงที่ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดิ่งร่วงลง เช่นเดียวกับตลาดแรงงานที่ซบเซา และภาวะสินเชื่อที่ตึงตัวมากขึ้น
"ภาพรวมจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะสร้างความเสียหายไปตลอดทั้งปี หลังจากที่อิทธิพลของแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มซาลง" สตีเฟ่น สแตนลีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก RBS Greenwich Capital Markets กล่าว "นอกจากนี้ เศรษฐกิจจะยังไม่ขยายตัวมากนักจนกว่าจะเข้าสู่ปี 2552"
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ Reuters/University of Michigan ซึ่งจะมีรายงานในคืนนี้อาจระบุถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงแตะที่ระดับ 56.7 จุดในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2523
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--