เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้าวันนี้(30 มิ.ย.) หลังจากที่ราคาน้ำมันพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ข้อมูลของทางการสหรัฐบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 28 ปี ขณะที่ตลาดหุ้นดิ่งร่วงลงอย่างต่อเนื่อง
ทางการสหรัฐรายงานว่า ยอดการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนที่ผ่านมาพุ่งสูงขึ้นจากอานิสงส์ของมาตรการคืนเงินภาษีที่กระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือน ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคขั้นพื้นฐาน(CPI) ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานอ่อนตัวลง
จากข้อมูลเหล่านี้ทำให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ แม้ว่าธนาคารกลางจะแสดงความวิตกกังวลต่อความเสี่ยงเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นหลังจากที่ได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดีลเลอร์จากยุโรเปี้ยน แบงค์กล่าวว่า "ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่สต็อกน้ำมันในสหรัฐจะกดดันให้เงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่องและเป็นเรื่องยากที่เงินดอลลาร์จะฟื้นตัวขึ้นแข็งแกร่ง"
"นักลงทุนกำลังจับตาปัจจัยชี้นำใหม่ๆที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของเงินดอลลาร์ในสัปดาห์นี้"
ทั้งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)จะเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจ(ทังกัน)ในวันอังคารนี้ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปจะประชุมกำหนดนโยบายในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าธนาคารจะขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 4.25% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ส่วนทางการสหรัฐจะรายงานตัวเลขจ้างงานในวันพฤหัสบดีนี้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า เงินดอลลาร์ขยับขึ้น 0.2% แตะที่ 106.30 เยนต่อดอลลาร์ซึ่งฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดที่ 105.85 เยนต่อดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าเล็กน้อยที่ระดับ 1.5786 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากพุ่งแข็งค่าสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 1.5798 ดอลลาร์ต่อยูโร
ทั้งนี้ สกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนต่ำอย่างเงินเยนไต่ระดับขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนชะลอความต้องการที่จะเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงในขณะนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--