ผู้ว่าแบงค์ชาติมาเลเซียชี้ราคาอาหารพุ่งกระทบการใช้จ่ายภาคครัวเรือน

          นางเซติอัคตาร์ อาซิส ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซียกล่าวว่า ราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นอาจจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายภาคครัวเรือน และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมทั้งยังทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงต่ำกว่าการคาดการณ์เมื่อเดือนมี.ค.
          ผู้ว่าการแบงค์ชาติมาเลเซียกล่าวว่า ปัจจัยที่สำคัญในช่วงที่สถานการณ์เป็นเช่นนี้คือ การรักษาระดับความต้องการภายในประเทศ หากเราสามารถควบคุมไว้ได้ มาเลเซียก็มีความเป็นไปได้ที่จะขยายตัวในช่วง 4.5-5% แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นช่วงเริ่มต้นอยู่
          ธนาคารกลางมาเลเซียคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมี.ค.ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้จะอยู่ที่ 5-6% หลังจากที่ขยายตัว 6.3% ในปีที่แล้ว โดยราคาอาหารและน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเป็นปัจจัยที่ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อซึ่งเป็นปัจจัยที่คุกคามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางมาเลเซียได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3.5% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 17 ในการประชุมเมื่อเดือนพ.ค.นั้น กำหนดว่าจะยังไม่พิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงช่วงสิ้นเดือนก.ค. โดยอัตราเงินเฟ้อของมาเลเซียอาจจะแตะระดับสูงในรอบ 9 ปีที่ 5% ในเดือนนี้ หลังจากที่รัฐบาลได้ปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงและน้ำมันดีเซล
          ผู้ว่าแบงค์ชาติมาเลเซียกล่าวว่า ตอนนี้ธนาคารติดตามผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับค่าแรงอย่างใกล้ชิด และดูว่าการผลักภาระไปให้ผู้บริโภคนั้นสูงขึ้นเท่าใด เมื่อปัจจัยเหล่านี้มีความชัดเจนเราก็จะพิจารณาจากพื้นฐานดังกล่าว โดยธนาคารจะไม่ใช้อัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อ เพราะตลาดปริวรรตเงินตรามีความผันผวนมากเกินไป