พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องการประกาศลอยตัวราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ว่าจะปรับขึ้นจากระดับราคาในปัจจุบันเป็นท่าไหร่และกำหนดให้ปรับขึ้นได้เมื่อไหร่
ส่วนปัญหาก๊าซแอลพีจีขาดตลาดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานั้น รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตนเองจะหารือร่วมกับกรมธุรกิจพลังงาน และกรมการค้าภายใน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดมาจากจุดใด
รมว.พลังงาน ยังเชิญชวนให้ประชาชนหันมาใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ(เอ็นจีวี) เนื่องจากมีอัตราการสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียงกิโลเมตรละ 56 สตางค์ ขณะที่การใช้ก๊าซแอลพีจีมีอัตราการสิ้นเปลืองที่กิโลเมตรละ 1 บาทเศษ และถึงแม้ในปีหน้าราคาเอ็นจีวีจะปรับขึ้นไปเป็นกิโลกรัมละ 12 บาท แต่ก็มีอัตราการสิ้นเปลืองเพียงกิโลเมตรละ 86 สตางค์เท่านั้น
ขณะที่ นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า วันพรุ่งนี้(1 ก.ค.) จะยังไม่มีการปรับราคาก๊าซแอลพีจี แต่จะมีการพิจารณาทบทวนนโยบายลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจีตามแผนงานที่กำหนดก่อนหน้านี้ ซึ่งจะกำหนดราคาตามประเภทการใช้งาน ได้แก่ ภาคครัวเรือน และภาคขนส่งและอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานเคยส่งสัญญาณเรื่องการลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจีมาตั้งแต่ปลายปี 50 เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้มีเพิ่มมากขึ้นจนส่งผลให้กำลังการผลิตในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการจนต้องนำเข้า ซึ่งภาครัฐต้องแบกรับภาระจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อตรึงราคาไว้ที่ตันละ 300 กว่าเหรียญสหรัฐ ทั้งที่ราคาในตลาดโลกอยู่ที่ 900 เหรียญสหรัฐ
สำหรับปัญหาก๊าซแอลพีจีขาดตลาดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการขนส่งไม่ใช่การกักตุนเพื่อเก็งกำไร ซึ่งกระทรวงพลังงานได้แก้ปัญหาด้วยการนำสต๊อกก๊าซสำรองออกมาใช้ชั่วคราวเพื่อบรรเทาผลกระทบ ทำให้สถานการณ์ขณะนี้กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว
"เมื่อคืนวันพฤหัสฯ เรือเข้าไปรับก๊าซที่เขาบ่อยาไม่ได้ เรือ 4 ลำก็ราว 2 พันกว่าตัน เนื่องจากท่าเรือซ้อมการป้องกันอุบัติภัย...พอประชาชนคิดว่าขาด(ตลาด)ก็ตื่นตระหนกแห่ไปเติมกัน" นายพรชัย กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/ธนวัฏ/กษมาพร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--