เศรษฐกิจของเวียดนามขยายตัวในระดับที่ชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบอย่างน้อย 7 ปี ในขณะที่ตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ร่วงลงส่งผลให้บริษัทก่อสร้างต่างๆชะลอโครงการของตนเอง ในขณะที่เงินเฟ้อของเวียดนามขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 10 ปีครึ่ง
สำนักงานสถิติเวียดนามรายงานว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัว 6.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งขยายตัวอยู่ที่ 7.9% โดยเป็นการอ่อนตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2544
ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามก็ร่วงลงถึง 56% ในปีนี้ ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ระบุเมื่อเดือนพ.ค.ว่า เงินเฟ้อที่สูงขึ้นในเวียดนามทำให้บริษัทก่อสร้างชะลอโครงการอสังหาฯที่มองว่าไม่มีประโยชน์ทางเศรษฐกิจลง โดยรัฐบาลเวียดนามได้ลดเป้าการขยายตัวในปีนี้ลงเหลือ 7% จากระดับ 9%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เรย์มอนด์ มัลลอน นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า การขยายตัวได้รับผลกระทบจากการระเบิดของภาวะฟองสบู่ 2 ครั้งทั้งในตลาดหุ้นและอสังหาฯ เมื่อตลาดหุ้นร่วง ตลาดอสังหาฯก็ร่วงลง และทำให้เกิดปัญหากับธนาคารที่ปล่อยกู้ให้กับตลาดอสังหาฯ ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าบริษัทก่อสร้างบางรายกำลังประสบปัญหา
ภาคอุตสาหกรรมและก่อสร้าง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 39% ของเศรษฐกิจเวียดนามในช่วงครึ่งปีแรก ขยายตัว 7% และเมื่อนับการขยายตัวในภาคก่อสร้างแต่เพียงอย่างเดียวขยายตัว 0.9%
ยอดขายเหล็กที่ผลิตภายในประเทศตกลง 19% ในเดือนมิ.ย. แตะ 250,000 ตันจากระดับ 310,000 ตันในเดือนพ.ค. เพราะได้รับผลกระทบส่วนหนึ่งจากการปล่อยเงินกู้ที่น้อยลง รวมทั้งการคุมเข้มของรัฐบาลเรื่องกองทุนของโครงการลงทุนของรัฐบาล
อลัน ยัง ซีโอโอของเวียดนาม อินดัสเทรียล อินเวสท์เมนท์ กล่าวว่า การไม่ให้สินเชื่อทำให้ตลาดก่อสร้างและอสังหาฯได้รับผลกระทบ ธนาคารไม่เพียงแต่จะไม่มีเงินปล่อยกู้เท่านั้น นักลงทุนเองก็ไม่อยากลงทุนเพิ่มเติม ด้านรัฐบาลก็ได้สั่งหยุดโครงการรัฐบางส่วนที่ได้เริ่มก่อสร้างไปแล้ว
รัฐบาลเวียดนามได้กำหนดลดเป้าการขยายตัวด้านสินเชื่อในปีนี้ลงเหลือ 30% จากระดับปีที่แล้วที่ 54% เพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นถึง 26.8% ในเดือนมิ.ย.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--