"มาสด้า" นำขบวนยอดขายรถยนต์ในญี่ปุ่นร่วง หลังผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง

          มาสด้า มอเตอร์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ฟอร์ด มอเตอร์ มียอดขายรถยนต์ในประเทศลดลงมากที่สุดในเดือนมิ.ย. หลังราคาน้ำมันและอาหารที่พุ่งสูงกดดันให้ผู้บริโภคต้องลดค่าใช้จ่ายลง 
          สมาคมนายหน้าค้ายานยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า ยอดขายรถยนต์ รถกระบะ และรถบัสในประเทศ ลดลง 3.6% เหลือ 281,261 คันเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
          การใช้จ่ายภาคครัวเรือนในญี่ปุ่นลดลง 3.2% ในเดือนพ.ค. ซึ่งถือว่าหดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 2549 ในขณะที่ราคาน้ำมันก็ทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 173 เยนต่อลิตร (6.06 ดอลลาร์ต่อแกลลอน) ในเดือนมิ.ย.          
          "ตอนนี้ผู้บริโภคไม่เหลือเงินพอที่จะซื้อรถยนต์แล้ว" ไดสุเกะ ชิมาซุ ผู้จัดการฝ่ายการลงทุนของซูมิโตโม่ ทรัสต์ แบงกิ้ง ในโตเกียว กล่าว "ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงส่งผลให้การบริโภคลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"      
          สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่นเผยว่า รายได้ที่ยังเท่าเดิมและจำนวนประชากรที่ลดลงเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดให้ยอดขายรถยนต์ลดลง (ยกเว้นรถยนต์ขนาดเล็ก) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 35 ปีเมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่ยอดขายรถยนต์นับรวมรถยนต์ขนาดเล็ก มีแนวโน้มว่าจะลดลง 1.2% เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เหลือ 5.32 ล้านคันในปีนี้          
          ในขณะเดียวกัน ยอดขายของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เมื่อไม่นับรวมยอดขายของแบรนด์เล็กซัส มีการขยายตัว 0.5% แตะ 124,866 คันในเดือนมิ.ย. ส่วนฮอนด้า มอเตอร์ มียอดขายเพิ่มขึ้น 4.1% แตะ 35,415 คัน ด้านนิสสัน มอเตอร์ มียอดขายลดลงกว่า 3.9% เหลือ 49,046 คัน ในขณะที่ยอดขายของมาสด้าร่วงลงมากที่สุดกว่า 12.2% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน