นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายเดือนพ.ค.ยังเป็นการไหลเข้าสุทธิ 1,144 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้จะปรับตัวลดลงจากเดือนเม.ย.จำนวน 193 ล้านเหรียญสหรัฐก็ตาม ส่วนใหญ่มาจากสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์(Non-Bank) จำนวน 707 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับการลงทุนโดยตรงจากนักลงต่างประเทศ(FDI)ยังเป็นการไหลเข้าสุทธิ 487 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 56 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนภาครัฐบาลเป็นการเกินดุลเช่นกันจำนวน 571 ล้านเหรียญสหรัฐพลิกจากการขาดดุลเดือนก่อนจำนวน 276 ล้านเหรียญ เนื่องจากมีกำไรส่งกลับจากการลงทุนในซามูไรบอนด์
อย่างไรก็ตาม พบว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย(ตลท.) ในเดือนเดียวกันเป็นการไหลออกสุทธิจำนวน 396 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ของปี โดยในเดือนก่อนมีเงินไหลออกสุทธิ 61 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้เป็นผลจากการเทขายหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติและส่งกลับกำไรออกนอกประเทศ ประกอบกับส่วนหนึ่งเกิดจากมาตรการส่งเสริมให้นักลงทุนไทยนำเงินออกไปลงทุนต่างชาติ
นอกจากนี้ยังพบว่า ภาคธนาคารพาณิชย์มีเงินไหลออกสุทธิ 62 ล้านเหรียญสหรัฐพลิกจากการไหลเข้าสุทธิเดือนก่อนจำนวน659 ล้านเหรียญสหรัฐส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับฐานะเงินตราต่างประเทศของธนาคารพาณิชย์เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกรรมซื้อดอลลาร์สหรัฐล่วงหน้า หลังจากผู้นำเข้าสิ้นค้ามีการซื้อดอลลาร์สหรัฐล่วงหน้า
การเคลื่อนไหวของเงินทุนเคลื่อนย้ายดังกล่าวมีผลให้ค่าเงินบาทในเดือนพ.ค.เฉลี่ยที่ระดับ 32.11 บาท/ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.ซึ่งเคลื่อนไหวเฉลี่ยที่ระดับ 31.59 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
--อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--