เศรษฐกิจทรุด-น้ำมันแพง ฉุดยอดขายบริษัทรถยนต์ในสหรัฐร่วงถ้วนหน้า

ข่าวต่างประเทศ Wednesday July 2, 2008 10:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐของบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ร่วงลงถ้วนหน้าในเดือนมิ.ย. โดยบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ดิ่งลง 28.1% แตะระดับ 174,091 คัน จากเดือนมิ.ย.ปีที่แล้วที่ระดับ 242,029 คัน 
จิม ฟาร์ลีย์ รองประธานฟอร์ด มอเตอร์ กล่าวว่า "ความเชื่อมั่นผู้บริโภคถดถอยลงอย่างหนัก ซึ่งส่งผลกระทบถึงการซื้อรถยนต์ ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลังแล้ว แต่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะฟื้นตัวขึ้น"
บริษัทเดมเลอร์ เอจี เปิดเผย ยอดขายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในสหรัฐ ลดลง 0.1% สู่ระดับ 19,576 คันในเดือนมิ.ย. ขณะที่ยอดขายรถยนต์ของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ร่วงลง 21.4% เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินที่แพงขึ้นและเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลง
ยอดขายรถยนต์ของเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ดิ่งลง 18.5% แตะระดับ 265,937 คัน เมื่อเทียบกับยอดขายเดือนมิ.ย.ปีที่แล้วที่ 326,300 คัน
ส่วนยอดขายของบริษัทมาสด้า นอร์ธ อเมริกา ออเพอเรชันส์ ร่วงลง 7.7% แตะระดับ 23,771 คัน
อลัน บอม นักวิเคราะห์จากบริษัทแพลนนิง เอดจ์ ในรัฐมิชิแกน กล่าวว่า "ยอดขายรถยนต์ที่ทรุดตัวลงในสหรัฐสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้นในยามที่ราคาน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นแตะระดับ 4 ดอลลาร์/แกลลอนและเศรษฐกิจชะลอตัวลงหนักสุดในรอบ 5 ปี ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ตัวเลขการซื้อรถยนต์ลดน้อยลง"
"รถยนต์ที่ผู้บริโภคมองหาในเวลานี้เป็นรถยนต์ประเภทประหยัดน้ำมัน แต่ยอดขายรถยนต์ประเภทนี้ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก ผมคาดว่ายอดขายรถยนต์ในสหรัฐจะร่วงลงอีกในหลายเดือนข้างหน้า" อลัน บอมกล่าว
เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในอัตรา 1% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นสถิติที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยตกต่ำลง ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ภาวะสินเชื่อตึงตัว และตลาดจ้างงานที่ถดถอยลง ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 1.5% ในปีนี้ ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวช้าที่สุดในรอบ 7 ปี และคาดว่าจะขยายตัว 1.9% ในปีหน้า สำนักบลูมเบิร์กรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ