สตาร์บัคส์ คอร์ป ประกาศว่า บริษัทจะปิดร้านจำนวน 600 สาขาภายในปีหน้า เนื่องจากแผนการเร่งขยายสาขาของบริษัทมีอันต้องสะดุดจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า หุ้นของสตาร์บัคส์ซึ่งร่วงลงอย่างต่อเนื่องมาเกือบสองปีแล้ว กระโดดขึ้น 72 เซนต์ หรือ 4.6% หลังจากที่บริษัทได้ออกมาประกาศข่าวดังกล่าว
สตาร์บัคส์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในซีแอตเทิล ไม่ได้ระบุว่าสาขาใดบ้างที่จะถูกปิด แต่กล่าวว่าร้านที่เตรียมจะถูกปิดนั้นกระจายอยู่ทั่วประเทศและ 70% เป็นร้านที่เปิดดำเนินการหลังจากช่วงต้นปี 2549
พีท โบเคน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของสตาร์บัคส์ กล่าวในระหว่างการประชุมทางไกลว่า ก่อนหน้านี้บริษัทมีแผนที่จะปิดร้าน 100 แห่ง และเฝ้าติดตามเป็นการภายในมาสักระยะหนึ่งแล้วว่าจะปิดร้านที่ไม่ทำกำไรเพิ่มอีก 500 แห่ง
ด้านวาเลอรี โอนีล โฆษกของสตาร์บัคส์ กล่าวว่า พนักงานประมาณ 12,000 คนหรือคิดเป็น 7% ของพนักงานทั่วโลกของสตาร์บัคส์ จะได้รับผลกระทบจากการปิดร้านในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนก.ค.ปีนี้ไปจนถึงกลางปีหน้า
โอนีลกล่าวว่า พนักงานส่วนใหญ่จะย้ายไปทำงานที่สาขาที่อยู่ใกล้เคียง และบางส่วนจะต้องตกงาน ซึ่งเธอก็ไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน โดยสตาร์บัคส์คาดว่าจะต้องจ่ายเงินชดเชยการเลิกจ้างที่ราว 8 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปิดร้านรวม 348 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ จนถึงเดือนมีนาคมปีนี้ สตาร์บัคส์มีสาขาอยู่ 16,226 แห่งทั่วโลก โดยแบ่งเป็นร้านที่บริหารงานเองจำนวน 7,257 แห่งในสหรัฐ และ 1,867 แห่งในต่างประเทศ ขณะที่อีก 7,102 สาขาดำเนินการโดยหุ้นส่วนที่ได้รับอนุญาตจากสตาร์บัคส์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--