ฌอง-คล็อด ทริเชต์ ผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งได้รับการคาดหมายว่าจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพรุ่งนี้ กล่าวว่า มีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะพุ่งทะยานขึ้น ถ้าธนาคารไม่ดำเนินการขั้นเด็ดขาด
ในบทความของนสพ.Die Zeit ของเยอรมนี ฉบับที่จะเผยแพร่ในวันพฤหัสบดีนี้ ทริเชต์ได้กล่าวว่า ธนาคารกลางมีความรับผิดชอบใหญ่หลวง "ถ้าเราไม่เด็ดขาด ก็มีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะระเบิดตูม แต่ถ้าเราดำเนินการอย่างเด็ดเดี่ยว เราก็จะควบคุมสถานการณ์ได้"
ทั้งนี้ ทริเชต์กล่าวเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 4.25% ในการประชุมของธนาคารวันที่ 3 ก.ค.นี้ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจกำลังอยู่ในภาวะชะลอตัวก็ตาม ซึ่งหลังจากการแสดงความเห็นดังกล่าว ปรากฏว่าราคาอาหารและพลังงานที่ทะยานขึ้นได้หนุนให้เงินเฟ้อในเขตยูโรปรับตัวขึ้นเป็น 4% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของ ECB ถึงสองเท่า ส่งผลให้บรรดาผู้บริหารกังวลว่าคนงานจะขอขึ้นค่าจ้างเพื่อชดเชยกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น
สเตฟาน เบลไมเออร์ นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารดอยช์แบงก์ ในแฟรงค์เฟิร์ต กล่าวว่า "ความเห็นของทริเชต์สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของ ECB ที่ว่าธนาคารจะไม่ยอมให้อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันไปเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะ wage-inflation spiral หรือการที่อัตราค่าจ้างและเงินเฟ้อสูงขึ้นเป็นลูกโซ่ โดยเขาเชื่อว่า ECB ยอมให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นกระทบกับการขยายตัวในระยะใกล้ ดีกว่าที่จะสร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจในระยะยาว ด้วยการที่ไม่ตัดสินใจทำอะไรให้เด็ดขาด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักลงทุนเชื่อว่า ECB จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยส่วนใหญ่คาดว่าดอกเบี้ยจะขยับขึ้นเป็น 4.5% ภายในเดือนธันวาคมนี้ และบางส่วนเชื่อว่าจะขยับขึ้นอีกภายในเดือนมีนาคมปีหน้า
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--