ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งหลังอัตราว่างงานสหรัฐทรงตัว,อีซีบีไม่ส่งสัญญาขึ้นดบ.อีก

          สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.อยู่ในระดับทรงตัว และหลังจากธนาคารกลางยุโรปประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีกในระยะใกล้นี้
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 106.72 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 105.86 เยน/ดอลลาร์ และแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.0265 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0140 ฟรังค์/ดอลลาร์
          ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.5694 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5878 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับ 1.9815 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9927 ดอลลาร์/ปอนด์
          ดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.7549 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7596 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลงแตะระดับ 0.7549 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.7596 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
          คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรปมีมติให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25% ตามคาดเมื่อวานนี้ ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี เนื่องมาจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินเป้าหมายของธนาคารกลาง
          ฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยก็เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินเป้าหมาย พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยอีกในระยะใกล้นี้ เนื่องจากเศรษฐกิจยุโรปชะลอตัวลงอย่างมาก    
          แดน แคทซีฟ นักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราจากเครดิต สวิส กล่าวว่า "นอกเหนือจากธนาคารกลางยุโรปที่ไม่ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากอัตราว่างงานสหรัฐที่ทรงตัวในเดือนมิ.ย.ด้วย"
          เมื่อวานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.ทรงตัวอยู่ที่ 5.5% หลังจากพุ่งขึ้นรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 20 ปีเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.ร่วงลง 62,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้ตัวเลขจ้างงานโดยรวมลดลงไปแล้วถึง 438,000 ตำแหน่งในปีนี้