อัตราเงินเฟ้อของอินเดียพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 13 ปี ซึ่งภาวะดังกล่าวยิ่งสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในเดือนนี้
รัฐบาลอินเดียกล่าวในแถลงการณ์ว่า ราคาค้าส่งในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 21 มิ.ย.พุ่งขึ้นต่อเนื่อง 11.63% จากที่ขยายตัวขึ้น 11.42% ในรอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ 16 รายจากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่า ราคาค้าส่งจะปรับตัวขึ้น 11.47%
อัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้นได้กลายเป็นตัวฉุดรั้งคะแนนนิยมของคณะรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ ซึ่งกำลังเผชิญแรงกดดันจากพรรคคอมมิวนิสต์ต่อกรณีการพิจารณาถอดถอนการสนับสนุนข้อตกลงด้านนิวเคลียร์กับสหรัฐ ขณะที่การประท้วงของกลุ่มผู้ขับรถบรรทุกอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะเงินเฟ้อมากยิ่งขึ้น
"นอกจากเราจะต้องเผชิญความเดือดร้อนแล้ว ประเด็นความแตกแยกทางการเมือง ภาวะเงินเฟ้อ และเหตุประท้วงของผู้ขับรถบรรทุกจะสร้างปัญหาให้กับกลไกทางเศรษฐกิจ" นักวิเคราะห์จาก Mumbai-based Crisil Ltd กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอินเดีย ซึ่งจะเข้าร่วมประชุมเพื่อทบทวนนโยบายดอกเบี้ยครั้งต่อไปในวันที่ 29 ก.ค.นี้ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยถึง 2 ครั้งเมื่อเดือนที่ผ่านมาสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีที่ 8.5% พร้อมทั้งขึ้นสัดส่วนสำรองเงินสดสู่ระดับ 8.75% เพื่อป้องกันมิให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบธนาคารได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--