ดอยช์แบงก์มองตลาดหุ้นไทยระยะสั้นไม่น่าลงทุน รอประเมินอีก 3-6 เดือน

          ดอยช์แบงก์ มองหุ้นไทยระยะสั้นไม่น่าลงทุน เหตุรับผลจากเงินเฟ้อสูงจากราคาน้ำมัน แต่ก็เชื่อว่าราคาน้ำมันน่าจะ peak สุดแล้ว และเมื่อลดลง นักลงทุนก็จะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเพื่อหวังผลตอบแทนที่ดี ซึ่งทางดอยช์แบงก์เตรียมประเมินภาพรวมอีกครั้ง 3-6 เดือนข้างหน้า
           นายอนุรัก มาเฮช กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการขายและการลงทุนระดับสากล-ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธนาคารดอยช์แบงก์(Deutsch Bank) กล่าวว่า ภาวะการการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้หรือระยะสั้นยังไม่มีความน่าสนใจที่จะดึงดูดการลงทุน เนื่องจากเศรษฐกิจไทยประสบปัญหาการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อระดับสูง เนื่องจากไทยมีการบริโภคน้ำมันต่อประชากรเกือบสูงสุดในภูมิภาคเอเชีย 
          อย่างไรก็ตาม ดอยช์แบงก์จะมีการประเมินภาพอีกครั้งในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า แต่หากมองในระยะยาวการลงทุนตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจอย่างมาก โดยมองว่าหากราคาน้ำมันเริ่มมีแนวโน้มที่ลดลง ผลตอบแทนในตลาดหุ้นก็จะเร่งตัวขึ้น
          นอกจากนั้น ยังเห็นว่าราคาน้ำมันและก๊าชธรรมชาติได้ปรับตัวขึ้นมามาก ขณะนี้ถือว่าถึงจุดสูงสุดแล้ว หากราคาปรับขึ้นอีกก็คงจะไม่สูงมากกว่านี้ โดยสิ้นปีเชื่อว่าจะอยู่ที่ 140 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล 
          “ผลจากราคาที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การใช้น้ำมันลดลงเรื่อยๆ มีการนำพลังงานทดแทนมาใช้ และเชื่อว่าการใช้น้ำมันของประเทศในเอเชียปรับลดลง หลังจากที่จีนและอินเดียเลิกการอุดหนุนราคาน้ำมัน และปล่อยให้เป็นไปตามกลไกลตลาด ส่งผลให้คนในประเทศใช้น้ำมันลดลง ก็จะทำให้การใช้น้ำมันปรับตัวลดลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับลดลงได้"นายอนุรัก กล่าว
          ขณะที่นายชิว ซุน เก็ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุนประจำภาคพื้นเอเชีย ธนาคารดอยช์แบงก์ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในประเทศกลุ่มตลาดใหม่น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากอาหารและพลังงานเป็นปัจจัยสำคัญต่อดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
          ประเทศเหล่านี้ ยังจำเป็นต้องปรับนโยบายทางการเงินให้มีความเข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบ หลายประเทศในเอเชีย เช่น จีน อินเดีย และ มาเลเซีย ก็เริ่มที่จะลดการสนับสนุนด้านการเงินในบางส่วน