นายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส แสดงความกังวลที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ซาร์โกซีกล่าวในที่ประชุมที่กรุงปารีสว่า "ท่านคิดว่าสมเหตุสมผลไหมที่อีซีบีตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 4.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ขณะที่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐยืนอยู่ที่ระดับต่ำสุดเพียง 2.00% เท่านั้น อัตราดอกเบี้ยที่ต่างกันมากขนาดนี้จะส่งผลให้ยุโรปเสียเปรียบในเชิงธุรกิจ การค้า และการส่งออก แม้อีซีบียืนยันว่าการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อก็ตาม"
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรปมีมติให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25% ตามคาด ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี เนื่องมาจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินเป้าหมายของธนาคารกลาง
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น (fed funds rate) ไว้เท่าเดิมที่ 2.00% และคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) ที่ 2.25% ซึ่งเป็นการลงมติด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 1
ฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบีออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยก็เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินเป้าหมาย พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยอีกในระยะใกล้นี้ เนื่องจากเศรษฐกิจยุโรปชะลอตัวลงอย่างมาก สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--