ยอดส่งออกของไต้หวันในเดือนมิ.ย.มีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากอุปสงค์ในสหรัฐและสหภาพยุโรป(อียู) ปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออาจพุ่งทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบปีจากต้นทุนด้านอาหารและเชื้อเพลิง
นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ยอดส่งออกของไต้หวันในเดือนมิ.ย.อาจขยายตัวที่ระดับ 16.5% จากปีที่ผ่านมา แต่ชะลอตัวลงจากระดับ 20.5% ในเดือนพ.ค.ขณะที่ราคาผู้บริโภคประจำเดือนมิ.ย.ไต่ระดับขึ้น 4.05% จากระดับ 3.71% ทั้งนี้ ทางการจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจทั้งสองรายการในเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันนี้
ยอดส่งออกที่ชะลอตัวทำให้นายเปิง ไฟ-หนาน ผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวันเ ผชิญสถานการณ์ยากลำบากทางเศรษฐกิจมากขึ้น หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งรัฐบาลคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในปีนี้จะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีขณะที่ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลกกำลังบั่นทอนอุปสงค์สินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จากไต้หวันและสิงคโปร์ รวมถึงสินค้าในกลุ่มยานยนต์จากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
"เราคาดว่ายอดส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อาจชะลอตัวและมีความเป็นไปได้ว่ายอดส่งออกไปยังสหรัฐและยุโรปเดือนมิ.ย.จะร่วงลงเมื่อเทียบเป็นรายปี" โทนี่ พูห์ นักวิเคราะห์จากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดในไทเปกล่าว
ทั้งนี้ จีนและสหรัฐเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ซึ่งมียอดการส่งออกไปต่างประเทศคิดเป็น 50% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทั้งนี้ ยอดขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปยังจีน ซึ่งมีภาวะเศรษฐกิจขยายตัวเร็วที่สุดในโลกอาจช่วยชดเชยยอดส่งออกที่ลดลงในสหรัฐได้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--