นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน ระบุว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะเห็นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปในประเทศขึ้นไปถึง 48-49 บาท/ลิตร หลังจากประมาณการณ์ว่าในช่วงดังกล่าวราคาน้ำมันในตลาดโลกจะขึ้นไปที่ 150 ดอลลาร์/บาร์เรล ดังนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรจะเตรียมมาตรการรองรับต่อสถานการณ์นี้อย่างจริงจัง
"มีนักวิเคราะห์มองว่าราคาน้ำมันอาจจะพุ่งสูงถึง 250 เหรียญ/บาร์เรล ผมก็มองว่าเป็นไปได้ เนื่องจากตั้งแต่ที่ราคาน้ำมัน 100 เหรียญ เราก็ไม่เชื่อว่ามันจะขึ้นมาถึงขนาดนี้ และไม่มีการเตรียมตัวรองรับอย่างจริงจัง จนถึงวันนี้ราคาพุ่งเกือบ 150 เหรียญ ทำให้ประเทศไทยประสบปัญหาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นทุกฝ่ายควรเตรียมตัว" นายมนูญ กล่าว
พร้อมกันนี้ มองว่ารัฐบาลควรยกเลิกการอุดหนุนราคาน้ำมันแก่ภาคขนส่งที่ปัจจุบันอุดหนุนอยู่ 90 สตางค์/ลิตร เพราะแนวทางนี้จะส่งผลกระทบในระยะยาวต่อกองทุนน้ำมันในอนาคต เนื่องจากในจำนวน 90 สตางค์/ลิตรนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการอุดหนุนของกองทุนน้ำมัน 30 สตางค์/ลิตร ซึ่งหากยังต้องอุดหนุนอยู่ต่อไปจะทำให้กองทุนน้ำมันมีสถานะติดลบได้ ดังนั้น ในระยะแรกภาครัฐควรลดการอุดหนุนให้เหลือเพียง 60 สตางค์/ลิตรเท่านั้น
นายมนูญ มองว่า ภาคขนส่งและประชาชนควรต้องปรับตัวด้วยการใช้พลังงานทดแทน ขณะที่รัฐบาลควรมีมาตรการบังคับหรือกึ่งบังคับใช้กับประชาชน ตลอดจนภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี เห็นว่านโยบายของรัฐบาลและกระทรวงพลังงานที่ผ่านมาถือว่าเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะการผลักดันให้ใช้น้ำมันอี 85 ได้รับการตอบรับอย่างดี
ด้าน พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศจะปรับขึ้นไปสูงถึงลิตรละ 50 บาทในอีกไม่ช้านี้ โดยมีปัจจัยจากการที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า และสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง ดังนั้นรัฐบาลพยายามผลักดันให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานทดแทน ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งเนื่องจากแนวโน้มการใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--