กำไรของบริษัทเอกชนในสหรัฐคงจะหดตัวลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นสถิติที่ปรับตัวลงนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2545 ขณะที่ซิตี้แบงค์ และเมอร์ริล ลินช์ ก็ขาดทุนมากขึ้นจากวิกฤตตลาดปล่อยกู้เพื่อการจำนอง
ผลการรวบรวมข้อมูลของสำนักข่าวบลูมเบิร์กชี้ว่า รายได้ของบริษัทที่อยู่ในกลุ่มดัชนี Standard & Poor's 500 อาจจะตกลง 11% ในไตรมาส 2 จากระดับปีที่แล้ว หลังจากที่กำไรไตรมาสแรกร่วง 16% และกำไรไตรมาส 4 ปีที่แล้วตกลง 23% และลดลง 2.5% ในไตรมาส 3
ส่วนกำไรของบริษัทในภาคธุรกิจการเงินอาจจะร่วงลงถึง 60% โดยบริษัทหลักทรัพย์และธนาคารต่างๆทั่วโลกต้องสำรองหนี้สูญและขาดทุนจากบริการสินเชื่อจากปัญหาในตลาดที่อยู่อาศัยกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ต้นปี 2550
ทิม กริสกีย์ ซีอีโอของโซลาริส แอสเสท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า หุ้นไฟแนนซ์ยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง และประเด็นที่ได้รับความสนใจจริงๆก็คือ เรื่องรายได้ของบริษัทเหล่านี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--