ปีเตอร์ เร้ดเวิร์ด หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดเกิดใหม่ของบาร์เคลย์ส แคปิตอล กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเริ่มส่งผลกระทบต่อความแข็งแกร่งของสถานะด้านต่างประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะเกาหลีใต้และอินเดียที่ดูเหมือนว่าจะอ่อนไหว และราคาน้ำมันยังจะบั่นทอนแนวโน้มของการขยายตัวในภูมิภาคด้วยเช่นกัน
ราคาน้ำมันที่อยู่สูงกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลนั้น ทำให้ประเทศที่คาดว่าจะขาดดุลการค้าในแถบเอเชีย คือ เกาหลีใต้และอินเดีย ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันให้กับเงินวอนและรูปี โดยเงินวอนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอาจจะสูงถึง 1,200 วอนต่อดอลลาร์ในปีนี้ และเงินรูปีอาจจะสูงถึง 46 รูปีต่อดอลลาร์
เร้ดเวิร์ดกล่าวว่า ในขณะที่ราคาน้ำมันสูงขึ้น ความเปราะบางของประเทศต่างๆก็สูงขึ้นตามไปด้วย ไต้หวันและไทยอาจจะขาดดุลการค้ามากขึ้นหากว่าราคาน้ำมันพุ่งแตะ 150-160 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นยังทำให้ความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
เร้ดเวิร์ดกล่าวต่อไปว่า สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียดูเหมือนว่า จะสะท้อนให้เห็นถึงวิกฤตการเงินในเอเชียช่วงปลายทศวรรษที่ 19 แต่คาดว่าปัญหาต่างๆจะไม่เลวร้ายเมื่อพิจารณาจากประมาณการงบดุลที่แข็งแกร่งกว่า และอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความยืดหยุ่นที่จะช่วยรองรับภาวะผันผวนที่อาจเกิดขึ้น สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--