นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) กล่าวว่า ในเดือน ก.ค.นี้ ปตท.ได้สั่งนำเข้าก๊าซแอลพีจีเพิ่มขึ้นเป็น 80,000 ตัน จากเดิมที่ได้วางแผนการนำเข้าไว้ 60,000 หมื่นตัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับปริมาณความต้องการใช้ก๊าซแอลพีจีในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และไม่เกิดปัญหาขาดแคลนดังเช่นในช่วงปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
ขณะนี้ ปตท.ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงกลั่น, ผู้ค้ามาตรา 7, การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และบริษัทผู้รับเหมาขนส่งก๊าซแอลพีจี รวมทั้งได้ดำเนินการแก้ไขจนสามารถส่งก๊าซแอลพีจีเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคและจะไม่มีปัญหาอีกต่อไป
สำหรับประเด็นที่รัฐบาลมีแนวทางที่จะปรับราคาก๊าซแอลพีจีเฉพาะภาคขนส่งและอุตสาหกรรม เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าความเป็นจริงและมีทางเลือกการใช้เชื้อเพลิงอื่นนั้น ปตท.เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว เพราะหากไม่มีการปรับราคาขึ้นจะส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้นมาก จนทำให้ต้องมีการนำเข้าก๊าซในปริมาณสูงมากขึ้นเรื่อยๆ
นายประเสริฐฯ กล่าวด้วยว่า การปรับราคาก๊าซแอลพีจีทุกประเภทเป็นรายไตรมาสจำนวน 5 ครั้ง ตามแนวทางของรัฐบาลชุดที่แล้ว จะส่งผลให้ต้องปรับราคาก๊าซในภาคครัวเรือนด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ก๊าซหุงต้มที่ปัจจุบันมีภาระค่าครองชีพที่สูงอยู่แล้วและเกิดผลกระทบในวงกว้าง
ดังนั้น ปตท.จึงเห็นว่าในชั้นนี้ควรดำเนินการตามแนวทางของรัฐในปัจจุบันที่จะปรับราคาก๊าซแอลพีจีเฉพาะภาคขนส่งและอุตสาหกรรมเท่านั้นไปก่อน เพราะเป็นส่วนที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนในภาคครัวเรือนควรจะชะลอไว้ก่อน
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--