อลิสแตร์ ดาร์ลิง รมว.คลังอังกฤษแสดงความต้องการให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายของสหภาพยุโรป (อียู) ลดการพึ่งพาบริษัทจัดอันดับเครดิต พร้อมกับเรียกร้องความร่วมมือในกลุ่มอียูให้ใช้มาตรการควบคุมอุตสาหกรรมจัดอันดับเครดิตอย่างเข้มงวดมากขึ้น
เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังอังกฤษเปิดเผยว่า ดาร์ลิงจะชี้แจงในที่ประชุมรมว.คลังกลุ่มอียูในวันนี้ว่า การพึ่งพาบริษัทจัดอันดับเครดิตมากเกินไป อาทิ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) และ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส จะทำให้การประเมินความเสี่ยงในตลาดปล่อยกู้ซับไพรม์ผิดไปจากความเป็นจริง
"ปัจจุบันคณะกรรมการกำหนดนโยบายของอียูพึ่งบริษัทจัดอันดับเครดิตมากเกินไป บริษัทจัดอันดับเครดิตควรเข้ามาจดทะเบียนกับทางการอียู เพื่อให้คณะกรรมการอียูสามารถควบคุมความโปร่งใสของบริษัทจัดอันดับเหล่านี้ได้มากขึ้น หลังจากเกิดวิกฤตการณ์ในตลาดซับไพรม์เมื่อปีที่แล้ว" ดาร์ลิงกล่าว
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ยื่นมือเข้าตรวจสอบบริษัทจัดอันดับเครดิต เพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างบริษัทจัดอันดับเครดิตและวาณิชธนกิจที่จ่ายเงินเพื่อการจัดอันดับ โดยในปีนี้ มูดีส์, เอสแอนด์พี และฟิทช์ เรทติ้งส์ได้ประกาศลดอันดับเครดิตของบริษัทหลักทรัพย์และธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ระดับโลกหลายแห่ง ส่งผลให้สถาบันการเงินเหล่านี้ต้องปรับลดสินทรัพย์มูลค่าทางบัญชีเป็นวงเงินรวมถึง 3.89 แสนล้านดอลลาร์
วุฒิสมาชิกจิม บันนิงของสหรัฐ ได้กล่าวหาสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศรายใหญ่ อาทิ S&P มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส และฟิทช์ เรทติ้งส์ ว่า สถาบันจัดอันดับเหล่านี้มีผลประโยชน์ทับซ้อนและปิดบังสถานะที่แท้จริงของบริษัทปล่อยกู้จำนอง จนเป็นเหตุให้กิดภาวะผันผวนในตลาดปล่อยกู้จำนองและสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนทั่วโลก สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--