ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ข่าว FED ขยายเงินกู้วาณิชธนกิจ หนุนดอลล์แข็งเทียบสกุลหลักๆ

          สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร เยน และสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดจะยังคงขยายวงเงินกู้ฉุกเฉินให้กับวาณิชธนกิจรายใหญ่ไปจนถึงปลายปีนี้ 
          คำยืนยันของประธานเฟดช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์สินเชื่อ หลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส คาดการณ์เมื่อวันก่อนว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมค อาจจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่ม เนื่องจากตลาดสินเชื่อยังคงเผชิญกับวิกฤตการณ์ที่ย่ำแย่ โดยคาดว่าแฟนนี เม อาจต้องระดมทุนราว 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และเฟรดดี แมค อาจระดมทุนราว 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 107.37 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 107.14 เยน/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.0332 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0262 ฟรังค์/ดอลลาร์
          ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.5644 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5721 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.9685 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9756 ดอลลาร์/ปอนด์
          สกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.7509 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7532 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลงแตะระดับ 0.9526 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9559 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
          เบอร์นันเก้กล่าวว่า เฟดจะพยายามป้องกันไม่ให้วิกฤตการณ์ซับไพรม์เกิดขึ้นซ้ำรอยในสหรัฐ ด้วยการกวาดล้างการปล่อยวงเงินกู้จำนองที่ละเมิดกฏเกณฑ์ของรัฐบาล จนเป็นเหตุให้สหรัฐเผชิญวิกฤตการณ์เศรษฐกิจอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ เฟดจะพิจารณาขยายวงเงินกู้ให้กับวาณิชธนกิจรายใหญ่ไปจนถึงปลายปีนี้
          เจย์ ไบรซัน นักวิเคราะห์จากธนาคารวาโชเวียในสหรัฐกล่าวว่า "มาตรการกวาดล้างการปล่อยกู้จำนองที่ละเมิดกฏเณฑ์ของรัฐบาลมีขึ้นหลังจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐตกต่ำลงอย่างหนักและส่งผลให้ตัวเลขการยึดบ้านที่หลุดจำนองพุ่งสูงขึ้น จนเป็นเหตุให้เศรษฐกิจสหรัฐระส่ำระสาย"
          "การที่ประธานเฟดประกาศใช้มาตรการดังกล่าวนับเป็นปัจจัยบวกที่หนุนดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่ในระยะยาวผมไม่มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยพยุงดอลลาร์ให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่" ไบรซันกล่าว