"เบอร์นันเก้"ยัน FED ขยายวงเงินกู้ให้วาณิชธนกิจถึงปลายปี มุ่งฟื้นฟูเสถียรภาพระบบการเงิน

ข่าวต่างประเทศ Wednesday July 9, 2008 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในที่ประชุมซึ่งจัดขึ้นโดย Federal Deposit Insurance Corp.ที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนียว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน และกำลังพิจารณาทางเลือกที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงการขยายวงเงินกู้โดยตรงให้กับวาณิชธนกิจไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งการแสดงความเห็นครั้งล่าสุดของเบอร์นันเก้ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของระบบการเงินในสหรัฐ
การแสดงความเห็นของเบอร์นันเก้มีขึ้นหลังจากหุ้นแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี ภายหลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส ระบุว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมค อาจจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่ม เนื่องจากตลาดสินเชื่อยังคงเผชิญกับวิกฤตการณ์ที่ย่ำแย่ โดยคาดว่าแฟนนี เม อาจต้องระดมทุนราว 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และเฟรดดี แมค อาจระดมทุนราว 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน เบอร์นันเก้สนับสนุนให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการกลางที่ทำหน้าที่ตรวจสอบวาณิชธนกิจที่มีสถานะทางการเงินที่อ่อนแอ โดยให้คณะกรรมการมีบทบาทในการให้คำปรึกษาร่วมกับคณะกรรมการเฟด ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะช่วยผ่อนคลายความวิตกกังวลของนักลงทุน และช่วยให้ดีลเลอร์มองว่าเฟดเป็นองค์กรที่สามารถพึ่งพาได้ในยามที่สถานการณ์เข้าตาจน
ในการประชุมครั้งนี้ เบอร์นันเก้ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจหรือนโยบายการเงิน แต่กล่าวถึงประเด็นกระตุ้นเสถียรภาพในตลาดการเงิน โดยระบุว่าคณะกรรมการเฟดกำลังทำงานร่วมกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เพื่อสนับสนุนการเพิ่มทุนและสภาพคล่องให้กับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดวอลล์สตรีท โดยเฉพาะ 4 วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ คือ เลห์แมน บราเธอร์ส, เมอร์ริล ลินช์, มอร์แกน สแตนลีย์ และโกลด์แมน แซคส์ หลังจากแบร์ สเติร์นส์ขาดสภาพคล่องอย่างหนักจนต้องขอกู้วงเงินฉุกเฉินจากเฟดจนเจพี มอร์แกนเข้ามาซื้อกิจการ
เบอร์นันเก้กล่าวว่า เฟดจะพยายามป้องกันไม่ให้วิกฤตการณ์ซับไพรม์เกิดขึ้นซ้ำรอยในสหรัฐ ด้วยการกวาดล้างการปล่อยวงเงินกู้จำนองที่ละเมิดกฏเกณฑ์ของรัฐบาล จนเป็นเหตุให้สหรัฐเผชิญวิกฤตการณ์เศรษฐกิจอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
"การออกกฏข้อบังคับที่เข้มงวดถือเป็นย่างก้าวและเป็นทางออกที่สำคัญ ซึ่งท่านรมว.คลัง เฮนรี พอลสัน ก็เห็นด้วยกับกลไกการดำเนินงานในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม การกำหนดวินัยในการกู้ยืมที่เข้มงวดจะต้องทำอย่างรอบคอบและค่อยเป็นค่อยเป็น" เบอร์นันเก้กล่าว
นอกจากนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า "แม้ตลาดสินเชื่อยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวในระยะสั้นนี้ แต่ผมมองว่าตลาดเริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้วตั้งแต่เดือนมี.ค. ผมคิดว่าสภาคองเกรสควรยื่นมือเข้าตรวจสอบวาณิชธนกิจและบริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่ รวมถึงสภาพคล่องและการบริหารความเสี่ยงของบริษัทเหล่านี้"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นในด้านบวกของเบอร์นันเก้ครั้งนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่หนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 152.25 จุด หรือ 1.36% ปิดที่ 11,384.21 จุดเมื่อคืนนี้ และเป็นปัจจัยบวกที่พยุงดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ