ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: วิตกอิหร่านยิงขีปนาวุธ ฉุดดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินหลักๆ

          สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อรายงานข่าวที่ว่าอิหร่านทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยระยะไกล และข่าวการโจมตีสถานกงสุลของสหรัฐในเมืองอิสตัลบูล ประเทศตุรกี นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากการที่นายฌอง-คล้อด ทริเชท์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (อีซีบี) แสดงความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในยุโรปที่พุ่งสูงขึ้น
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับ 106.81 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 107.43 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.0288 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0337 ฟรังค์/ดอลลาร์
          สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.5735 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5671 ดอลลาร์/ยูโร เงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.9812 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9693 ดอลลาร์/ปอนด์
          ส่วนสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7573 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7531 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.9554 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9535 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
          แรนดัล ลาคาโย นักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราต่างประเทศจากธนาคารวาโชเวียกล่าวว่า "ข่าวอิหร่านยิงทดสอบขีปนาวุธและข่าวการโจมตีสถานกงสุลสหรัฐในตุรกีส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายดอลลาร์สหรัฐ และหันไปถือครองสกุลเงินที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า อาทิ เงินเยนและฟรังค์สวิส นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นด้วย"
          ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 138.28 ดอลลาร์ ก่อนจะถอยลงมาปิดที่ระดับ 136.05 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสถานีโทรทัศน์อัล-อาลัมของทางการอิหร่านรายงานว่า กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่านได้ทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกล Shahab 3 น้ำหนัก 1 ตัน และมีรัศมีทำการ 2,000 กิโลเมตร ซึ่งสามารถได้ไกลถึงดินแดนอิสราเอล และก่อให้เกิดความกังวลว่าการยิงทดสอบขีปนาวุธของอิหร่านจะนำไปสู่สงคราม
          ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแม้มีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่ในยุโรปชะลอตัวลงก็ตาม โดยเมื่อวานนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า ยอดเกินดุลการค้าเดือนพ.ค.ของเยอรมนีร่วงลงแตะ 1.44 หมื่นล้านยูโร จาก 1.88 หมื่นล้านยูโรในเดือนเม.ย. โดยยอดส่งออกเดือนพ.ค.อยู่ที่ระดับ 8.08 หมื่นล้านยูโร ลดลงจาก 8.97 หมื่นล้านยูโรในเดือนเม.ย. 
           ฌอง-คล้อด ทริเชท์ ประธานอีซีบีกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในเขตยูโรโซนพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.0% ซึ่งเป็นระดับที่คุกคามการขยายตัวของเศรษฐกิจและมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้นอีก แต่การที่อีซีบีตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 4.25% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากเดิมที่ 4.00% จะช่วยรักษาเสถียรภาพด้านราคาในระยะกลางได้