อดีตจนท.ระดับสูงเชื่อ "จีเอ็ม-ฟอร์ด" สามารถฟันฝ่าวิกฤตยอดขายตกต่ำได้

          จอห์น ดีไวน์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) คอร์ป และฟอร์ด มอเตอร์ โค แสดงความเห็นว่า ทั้งจีเอ็มและฟอร์ดซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในสหรัฐจะสามารถฟันฝ่าวิกฤติการณ์เลวร้ายต่างๆไปได้ด้วยดีสมกับที่ได้ทุ่มเทความพยายามในการกู้วิกฤติขาดทุนจากยอดขายรถยนต์ของตลาดในประเทศที่ซบเซา 
          "ผมมีความเชื่อมั่นในทีมงานของฟอร์ดและจีเอ็มอย่างมาก" ดีไวน์ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก "ผมคิดว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่ยากลำบากมากก็ตาม"
          ทั้งนี้ ดีไวน์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานบริษัทดานา โฮลดิ้ง คอร์ป ซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ในเมืองโทเลโด รัฐโอไฮโอกล่าวว่า จากภาวะราคาน้ำมันเบนซินแพง ประกอบกับสถานการณ์ในตลาดสินเชื่อที่ตึงตัว รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในตลาดอเมริกาเหนือร่วงลงหนักที่สุดนั้บตั้งแต่เขาเริ่มทำงานกับฟอร์ดในปี 2510 ขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มว่าค่ายรถยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 ของสหรัฐจะยังคงมียอดขายที่ตกต่ำลงอีกในปีหน้า     
          "ยอดขายรถยนต์จะยังไม่ดีขึ้น แม้ว่าราคาน้ำมันเบนซินจะปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ชาวอเมริกันจะยังมีความวิตกกังวลว่าราคาน้ำมันอาจปรับตัวสูงขึ้นอีก" ดีไวน์เสริม
          ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กของจีเอ็มในสหรัฐปรับตัวลดลง 16 % ขณะที่ยอดขายของฟอร์ดร่วงลง 14% ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์มียอดขายที่ทรุดตัวลง 10%
          ขณะเดียวกัน ทางจีเอ็มยังไม่เคยรายงานตัวเลขผลกำไรรายปีนับตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ขณะที่ฟอร์ดมีรายงานตัวเลขขาดทุน 2 ปีติดต่อกัน นอกจากนี้ ค่ายรถทั้งสองยังได้ปรับลดกำลังการผลิตรถยนต์ในอเมริกาเหนือเนื่องจากยอดขายในสหรัฐที่ปรับตัวลดลง ซึ่งภาวะดังกล่าวส่งผลกระทบต่อบริษัทดานา ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ด้วยเช่นกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน