"แบงก์ ออฟ ไชน่า"คาดหยวนอ่อนค่า Q4/51 ขณะแบงก์ชาติเบนเข็มใช้นโยบายกำหนดดบ.

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 10, 2008 12:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          แบงก์ ออฟ ไชน่า ธนาคารรายใหญ่ที่สุดของจีนเปิดเผยว่า การแข็งค่าของสกุลเงินหยวนจะเริ่มชะลอตัวลงในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เนื่องจากทางการจีนหันไปมุ่งเน้นการใช้นโยบายด้านอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อมากขึ้น โดยจะปรับลดการใช้นโยบายกระตุ้นค่าเงินหยวนลง
ฉี เหล่ย นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ ไชน่ากล่าวว่า ธนาคารกลางจีนจะเปลี่ยนจุดยืนด้านนโยบายทางการเงินในปลายปีนี้ เนื่องจากการที่เงินหยวนแข็งค่าจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของประเทศ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในปีนี้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นไปแล้ว 6.5% เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งใกล้เคียงกับระดับที่แข็งค่าขึ้นตลอดทั้งปี 2550 เนื่องจากจีนกำลังหาทางปรับลดค่าใช้จ่ายการนำเข้าและสกัดกั้นเงินเฟ้อที่เป็นผลพวงจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
"การแข็งค่าของเงินหยวนอาจช่วยสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันได้เพียง 20% เท่านั้น ส่วนผลกระทบที่ตามมาคือมูลค่าการส่งออกที่ร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการนำเข้าจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้กับกลุ่มผู้ประกอบการในประเทศจีน"
นายฉีคาดว่า เงินหยวนอาจแข็งค่าขึ้น 2% ไปแตะที่ระดับ 6.72 ต่อดอลลาร์ภายในช่วงสิ้นสุดไตรมาสนี้ และอาจขยับขึ้นอีก 1% ในไตรมาสที่สี่ไปอยู่ที่ระดับ 6.65 ต่อดอลลาร์ ขณะที่เมื่อวานนี้ ระดับปิดของอัตราซื้อขายเงินหยวนเคลื่อนไหวที่ระดับ 6.857 ต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ รัฐบาลจะรายงานยอดส่งออกในวันที่ 15 ก.ค.นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนมิ.ย.อาจพุ่งขึ้น 22.4% จากปีที่ผ่านมา หลังจากขยายตัวขึ้น 28.1% ในเดือนพ.ค. ขณะที่ผลสำรวจอีกฉบับคาดว่ายอดนำเข้าจะพุ่งทะยานขึ้น 37.1% เนื่องจากเงินหยวนที่แข็งค่าได้เป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภคและบริษัทจีนมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ