"แบงก์ ออฟ ไชน่า" คาด CPI ทะยาน 7.2% ในปีนี้ จี้รัฐบาลใช้มาตรการคุมเงินเฟ้อ

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 10, 2008 14:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          แบงก์ ออฟ ไชน่า ธนาคารใหญ่ของจีน คาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัววัดอัตราเงินเฟ้อ จะมีการขยายตัวกว่า 7.2% ในปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
โดยธนาคารระบุในรายงานว่า รัฐบาลควรใช้มาตรการควบคุมทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ลดสภาพคล่อง และควบคุมการลงทุนที่มีมากเกินไป
ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา CPI จีนมีการขยายตัว 7.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี, 8.5% ในเดือนเม.ย., 8.3% ในเดือนมี.ค. และ 8.7% ในเดือนก.พ.
ในขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นอีกดัชนีที่สามารถวัดอัตราเงินเฟ้อได้ มีการขยายตัว 8.2% ในเดือนพ.ค. หลังจากที่ขยายตัว 8.1% ในเดือนเม.ย.
ก่อนหน้านี้แบงก์ ออฟ ไชน่าคาดการณ์ว่า CPI ปีนี้จะมีการขยายตัว 6.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวระบุว่า "ราคาน้ำมันเบนซิน น้ามันถ่านหิน และไฟฟ้าที่พุ่งสูงทำให้ต้องมีการปรับเพิ่มคาดกาณณ์ดังกล่าว"
รายงานดังกล่าวแนะว่ารัฐบาลควรประกาศขึ้นดอกเบี้ยและควบคุมการแข็งค่าของเงินหยวน ซึ่งมีแนวโน้มว่าธนาคารกลางจีนจะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้
นอกจากนั้นยังมีกระแสคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้ออาจชะลอตัวลงในเดือนมิ.ย. หลังราคาอาหารและผักผลไม้ปรับตัวลดลง โดยคาดว่า CPI เดือนมิ.ย.จะขยายตัวราว 7.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ