สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวผันผวนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) โดยดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดการเงินของสหรัฐ แต่ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์หลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 106.99 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 106.75 เยน/ดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.0281 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0280 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5770 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5741 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.9762 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9830 ดอลลาร์/ปอนด์
สกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7574 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7569 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.9619 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9557 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดการเงินของสหรัฐ หลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส คาดการณ์ว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมค ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) และมีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยนั้น อาจจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่ม เนื่องจากตลาดสินเชื่อยังคงเผชิญกับวิกฤตการณ์ที่ย่ำแย่ โดยคาดว่าแฟนนี เม อาจต้องระดมทุนราว 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และเฟรดดี แมค อาจระดมทุนราว 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์
โฮเวิร์ด อาร์เชอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทโกลบอล อินไซท์ กล่าวว่า "ความกังวลเรื่องตลาดการเงินของสหรัฐส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรและเงินสกุลหลักๆ อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษตรึงดอกเบี้ยเมื่อวานนี้"
ธนาคารกลางอังกฤษประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.00% เนื่องจากธนาคารกลางยังคงกังวลเรื่องเศรษฐกิจมากพอๆกับความวิตกเรื่องเงินเฟ้อที่สูงกว่าเป้าหมาย โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อ อยู่ที่ระดับ 3.1% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 2.0% ของธนาคารกลางอังกฤษ
ฮาลิแฟกซ์เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ราคาบ้านในอังกฤษร่วงลง 2.0% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 2.5% ในเดือนพ.ค. และในช่วงไตรมาสสองซึ่งสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.นั้น มูลค่าบ้านลดลง 6.1% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ผลการสำรวจของหอการค้าอังกฤษที่มีการเปิดเผยเมื่อวันจันทร์เตือนว่าเศรษฐกิจของอังกฤษมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย
"ธนาคารกลางอังกฤษยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้ เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยตกต่ำลงและตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ลดน้อยลงได้ฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลง แต่ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงเกินเป้าหมายก็ทำให้ธนาคารกลางกังวลเรื่องเงินเฟ้อเช่นกัน" อาร์เชอร์กล่าว
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ออกแถลงการณ์ประจำเดือนก.ค.เมื่อวานนี้ว่า การที่อีซีบีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 4.25% จากเดิมที่ระดับ 4.00% จะช่วยให้ธนาคารบรรลุเป้าหมายด้านการรักษาเสถียรภาพของราคาในระยะกลาง
อีซีบีระบุว่า จากข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อไม่นานมานี้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนมีแนวโน้มชะลอตัวลงในไตรมาสที่สอง หลังจากที่ขยายตัวขึ้นแข็งแกร่งในช่วงไตรมาสแรก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--