ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนพ.ค.2551 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าปรับตัวขึ้นสูงกว่ามูลค่าการส่งออก
นักวิเคราะห์ 74 รายจากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐจะขยายตัวขึ้น 2.6% สู่ระดับ 6.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับในเดือนก่อนหน้านี้ที่ปรับตัวลดลงแตะ 6.09 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่รายงานจากกระทรวงแรงงานสหรัฐอาจระบุถึงค่าใช้จ่ายด้านการนำเข้าสินค้าประจำเดือนมิ.ย.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 จากภาวะราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่แพงขึ้น
ราคาน้ำมัน เหล็ก และสินค้าโภคภัณฑ์ที่แพงขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นตัวเลขยอดขาดดุลการค้า นอกจากนี้ สถานการณ์เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงในรอบ 6 ปีขณะที่สกุลเงินในเอเชีย ละตินอเมริกา และตะวันออกกลางที่แข็งค่าก็ช่วยกระตุ้นอุปสงค์เครื่องมือเครื่องจักรของบริษัทหลายแห่งซึ่งช่วยประคับประคองเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะชะลอตัวได้
"ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ยอดขาดดุลการค้าขยายตัวเพิ่มมากขึ้น" เจย์ ไบรซัน นักวิเคราะห์จากวาโชเวีย คอร์ปกล่าว "ดุลบัญชีการค้าจะปรับตัวดีขึ้นอีกครั้งในช่วงไตรมาสที่สอง"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะรายงานยอดขาดดุลการค้าในเวลา 08.30 น.วันศุกร์นี้ตามเวลาในสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 5.95-6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานของสหรัฐจะเปิดเผยราคานำเข้าสินค้าประจำเดือนมิ.ย.ในเวลาเดียวกัน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขดังกล่าวจะพุ่งขึ้น 2% ซึ่งจะส่งผลให้ตัวเลขดังกล่าวทะยานขึ้นแตะที่ 18.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--